ทำไมต้องเรียนต่อ?
ในยุคที่ตลาดแรงงานมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเรียนต่อเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและยกระดับอาชีพของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท การศึกษาต่อสามารถช่วยให้เราได้รับทักษะเฉพาะทางและสร้างความได้เปรียบในการทำงาน นอกจากนี้ การเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ ๆ สร้างคอนเนคชั่นในอุตสาหกรรมและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ อีกด้วย

เรียนต่อต่างประเทศ เรียนตรีหรือโทดี?
- ปริญญาตรี: เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานของสาขาวิชาต่าง ๆ และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับอาชีพในอนาคต
- ปริญญาโท: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะทาง และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้เชิงลึก รวมถึงเปิดโอกาสในสายอาชีพที่มีตำแหน่งสูงขึ้นหรือเงินเดือนที่ดีกว่า
10 สาขาน่าเรียนทั้งในไทยและต่างประเทศ
1. Data Science & Artificial Intelligence (AI)
2. Cybersecurity
3. Biomedical Engineering
4. Digital Marketing
5. Sustainable Energy Engineering
6. Business Administration (MBA)
7. Computer Science
8. Architecture
9. International Relations
10. Environmental Science
เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้อะไรบ้าง?

1.วุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้อง: เช่น ใบปริญญาตรีสำหรับเรียนต่อโท หรือวุฒิมัธยมศึกษาสำหรับปริญญาตรี
2.ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ: เช่น IELTS, TOEFL หรือภาษาท้องถิ่นของประเทศที่ต้องการไปเรียน
3.จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation): จากอาจารย์หรือผู้ที่เคยทำงานร่วมกัน
4.Statement of Purpose (SOP) หรือ Personal Statement: บรรยายเหตุผลที่ต้องการเรียนต่อในสาขานั้น ๆ
5.Portfolio (ถ้ามี): สำหรับสายงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ สถาปัตยกรรม หรือสาขาที่ต้องใช้ผลงานประกอบการสมัคร
6.ผลสอบมาตรฐานอื่น ๆ (ถ้าจำเป็น): เช่น GMAT, GRE สำหรับหลักสูตรธุรกิจหรือวิทยาศาสตร์บางสาขา
7.เอกสารทางการเงิน: หลักฐานแสดงความสามารถทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองบัญชีธนาคาร เพื่อขอวีซ่านักเรียน
8.วีซ่านักเรียน: ต้องตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละประเทศ
9.ประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ: บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ต้องมีประกันสุขภาพ
เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้เงินเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อต่างประเทศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่เลือก มหาวิทยาลัย สาขาวิชา และค่าครองชีพในเมืองที่อยู่ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ได้แก่:
1. ค่าเล่าเรียน
- สหรัฐอเมริกา: $20,000 - $80,000 ต่อปี (ประมาณ 590,000-2,690,000 บาท)
- สหราชอาณาจักร: £10,000 - £40,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,700,000 บาท)
- ออสเตรเลีย: AUD 20,000 - AUD 50,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,070,000 บาท)
- แคนาดา: CAD 15,000 - CAD 40,000 ต่อปี (ประมาณ 355,000- 949,000 บาท)
- ยุโรป (เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์): บางประเทศมีค่าเล่าเรียนต่ำหรือไม่มีเลย (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)
2. ค่าครองชีพ
- สหรัฐอเมริกา: $1,000 - $2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 33,000-84,000 บาท)
- สหราชอาณาจักร: £800 - £2,000 ต่อเดือน (ประมาณ 34,000-85,000 บาท)
- ออสเตรเลีย: AUD 1,200 - AUD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 25,000-53,000 บาท)
- แคนาดา: CAD 1,000 - CAD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 23,000-59,000 บาท)
- ยุโรป: €600 - €1,500 ต่อเดือน (ประมาณ 21,000-52,000 บาท)
3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
- ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน: $500 - $2,000 ต่อปี
- ค่าประกันสุขภาพ: $500 - $2,000 ต่อปี
- ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินไปกลับ): $800 - $2,500 ขึ้นอยู่กับระยะทาง
รวมค่าใช้จ่ายต่อปี: โดยเฉลี่ยแล้ว นักศึกษาต่างชาติอาจต้องใช้เงินประมาณ $30,000 - $100,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเทศและมหาวิทยาลัยที่เลือก
ทุนการศึกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ
หากต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถสมัครทุนการศึกษาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น:
- ทุนรัฐบาล เช่น Fulbright (สหรัฐอเมริกา), Chevening (สหราชอาณาจักร), DAAD (เยอรมนี)
- ทุนมหาวิทยาลัย เช่น Gates Cambridge Scholarship, Australia Awards
- ทุนจากองค์กรเอกชนและมูลนิธิต่าง ๆ
การวางแผนค่าใช้จ่ายและมองหาทุนการศึกษาเป็นวิธีที่ช่วยให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นไปได้ง่ายขึ้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ
10 สาขาน่าเรียนต่อในไทย
1. บริหารธุรกิจและการบัญชี
- รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านการจัดการธุรกิจ การเงิน การตลาด และการบัญชี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในองค์กรต่าง ๆ
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 17,000 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- นักบัญชี (Accountant) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 25,000 บาท/เดือน
- นักวิเคราะห์ทางการเงิน (Financial Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน
- ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
- ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 45,000 บาท/เดือน
- ผู้บริหาร (Business Executive) – รายได้เริ่มต้น 30,000 - 70,000 บาท/เดือน
2. วิศวกรรมศาสตร์
- รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ พัฒนา และบำรุงรักษาระบบและโครงสร้างต่าง ๆ ในหลากหลายสาขา เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมโยธา
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 18,200 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- วิศวกรไฟฟ้า (Electrical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน
- วิศวกรเครื่องกล (Mechanical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 45,000 บาท/เดือน
- วิศวกรโยธา (Civil Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 28,000 - 40,000 บาท/เดือน
- ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
- ทนายความ (Lawyer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 40,000 บาท/เดือน
- ที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Advisor) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 70,000 บาท/เดือน
- ผู้พิพากษา (Judge) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
- อัยการ (Prosecutor) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน
- รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์และการรักษาโรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นแพทย์
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- ค่าเล่าเรียน: ภาคการศึกษาละ 30,000 บาท
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- แพทย์ (Medical Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
- ศัลยแพทย์ (Surgeon) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 120,000 บาท/เดือน
- แพทย์เฉพาะทาง (Specialist Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน
- แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน (Private Hospital Doctor) – รายได้สูงกว่า 200,000 บาท/เดือน
5. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
- วิศวกรระบบ (Systems Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน
- นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 50,000 บาท/เดือน
- ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI (AI Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 100,000 บาท/เดือน
6. นิเทศศาสตร์
- รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชน การประชาสัมพันธ์ และสื่อสารการตลาด
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 21,000 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- นักข่าว (Journalist) – เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 - 30,000 บาท/เดือน
- นักประชาสัมพันธ์ (PR Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน
- ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
- คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 40,000 บาท/เดือน
7. เศรษฐศาสตร์
- รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจ
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 28,400 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- นักเศรษฐศาสตร์ (Economist) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
- นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 80,000 บาท/เดือน
- ผู้บริหารธนาคาร (Bank Executive) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน
8. ศึกษาศาสตร์
- รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสอนและการบริหารการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นครูหรือผู้บริหารการศึกษา
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 20,000 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- ครู (Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
- ผู้บริหารโรงเรียน (School Administrator) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน
- ที่ปรึกษาด้านการศึกษา (Education Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 60,000 บาท/เดือน
9. ภาษาต่างประเทศ
- รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่น
- ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 15,000 บาท/เทอม
- ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
- ล่าม (Interpreter) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
- นักแปล (Translator) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
- ผู้สอนภาษาต่างประเทศ (Foreign Language Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน
- นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) - เงินเดือนเริ่มต้น: 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
- นักวิเคราะห์ระบบ (Systems Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 35,000 - 55,000 บาท/เดือน
- นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 25,000 - 45,000 บาท/เดือน
- ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 80,000 บาท/เดือน
- ผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ (Cloud Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 45,000 - 70,000 บาท/เดือน
- ผู้จัดการโครงการเทคโนโลยี (IT Project Manager) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติที่มีคุณภาพไม่แพ้กับการเรียนที่ต่างประเทศเลย เช่น
1. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University - ABAC)
- คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ (MSME): เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นการพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับศิษย์เก่าและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ
- เกณฑ์การรับสมัคร: นักศึกษาสามารถสมัครเข้าเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษหรือคณิตศาสตร์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เอง อย่างไรก็ตาม หากมีผลคะแนน TOEFL (iBT) ≥ 60 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0 จะได้รับการยกเว้นบางวิชา
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 70,000 บาท/เทอม
2. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University International College - MUIC)
- สาขาวิชาบริหารธุรกิจ: มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านการจัดการธุรกิจในระดับสากล
- สาขาวิชาวิทยาศาสตร์: เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์: เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาในด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
- เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS ≥ 6.0 (โดย Writing ≥ 6.0) หรือ TOEFL (iBT) ≥ 69 (โดย Writing ≥ 22)
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 200,000 - 300,000 บาท/เทอม
3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University)
4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University)
- คณะบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration - BBA): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการจัดการธุรกิจในระดับสากล
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Thammasat English Programme of Engineering - TEPE): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 80 หรือ IELTS (Academic) ≥ 6.0 และคะแนน SAT (Math) ≥ 600
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 90,000 - 101,000 บาท/เทอม
5. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang - KMITL)
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ (International College): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
- คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (School of Architecture, Art, and Design): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นการออกแบบและสถาปัตยกรรม
- เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 61 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0
- ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 92,500 -100,000 บาท/เทอม
การเรียนต่อไม่ใช่แค่โอกาสในการเพิ่มพูนความรู้ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเส้นทางอาชีพและพัฒนาตัวเองในระดับสากล ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อในไทยหรือต่างประเทศ การวางแผนล่วงหน้าและเลือกสาขาที่เหมาะสมกับความสนใจและตลาดแรงงานเป็นสิ่งสำคัญ
สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าใช้จ่าย เอกสารที่ต้องใช้ และโอกาสทางอาชีพหลังเรียนจบ
หากใครกำลังมองหาแนวทางในการเรียนต่อทั้งในไทยเเละต่างประเทศหรืออัปสกิลเพื่อต่อยอดอาชีพ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Education Portal