เมื่อพูดถึงยุคสมัยปัจจุบัน ที่การไปศึกษาต่อหรือไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ทำให้มีหลายครอบครัว หรือผู้อ่าน เริ่มมองหาสถาบันศึกษาต่อในระดับปริญญาโท หรือปริญญาทั้งในประเทศหรือต่างประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น แต่ละสถาบันมีเงื่อนไขในการรับเข้าศึกษาที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นค่าเทอม, ค่าใช้จ่ายในการเรียน รวมไปถึงผลคะแนนที่ต้องใช้ในการยื่นเพื่อผ่านเกณฑ์รับเข้าสมัคร
ซึ่งวันนี้เราจะมากล่าวถึงข้อสอบวัดระดับในการศึกษาต่อ ซึ่งมีผลบังคับใช้ในการศึกษาต่อทั้งในไทยและต่างประเทศในปัจจุบันค่อนข้างเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ซึ่งนั่นคือ GMAT
GMAT คืออะไร
GMAT (อ่านว่า จี-แมท) ย่อมาจาก Graduate Management Admission Test คือ ข้อสอบวัดสามารถของผู้สนใจเข้าศึกษาต่อปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ คะแนนดังกล่าวยังสามารถใช้ยื่นเข้า MBA ทุกมหาวิทยาลัยในไทย เช่น MBA CU , MBA TU , NIDA , SASIA , MBA KU
สาเหตุที่ GMAT ถือเป็นคะแนนที่จำเป็นต้องสอบเพื่อยื่นเข้า เพราะกว่า 7,000 สถาบันการศึกษาในต่างประเทศ ให้ความเชื่อมั่นในเกณฑ์การวัดผลของ GMAT ที่วัดความพร้อมของผู้สมัครถึงศักยภาพในการเรียนด้านบริหารธุรกิจและความสามารถในการจัดการปัญหาซับซ้อนได้ทั้งเชิงตรรกะ คำนวณ วิเคราะห์และตีความอย่างเข้าใจ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญในการใช้ในธุรกิจ และเรียน MBA ซึ่งต้องยอมรับตามตรงว่า ข้อสอบค่อนข้างยาก เพราะมีอัตราการสอบเข้าต่อปีเป็นจำนวนมาก และข้อสอบ GMAT มีหลายพาร์ต ซึ่งผู้เข้าสอบมีเวลาสอบทั้งหมดถึงประมาณ 3 ชั่วโมง การแบ่งเวลาทำข้อสอบแต่ละพาร์ทจึงเป็นเรื่องที่ต้องฝึกฝนและวางแผนให้ดี ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
GMAT มีกี่พาร์ต ออกสอบอะไรบ้าง อัพเดทล่าสุด
ข้อสอบ GMAT มีด้วยกันทั้งหมด 64 ข้อ ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที , แบ่งเป็น 3 พาร์ท ได้แก่
Part 1 : Quantitative Reasoning: วัดความสามารถคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงปริมาณ
จำนวน 21 ข้อ, 45 นาที
Part 2 : Verbal Reasoning: วัดทักษะการอ่าน การทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงภาษา
จำนวน 23 ข้อ, 45 นาที
Part 3 : Data Insights: วัดความสามารถในการวิเคราะห์ตีความข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น กราฟ ตาราง และข้อมูลหลายแหล่ง
จำนวน 20 ข้อ, 45 นาที
GMAT เสียค่าสอบเท่าไหร่ จัดสอบที่ไหน
ค่าสอบ (อัพเดทล่าสุด) : แบบ On-site: 275 USD หรือ 9,482.82 บาท, แบบ Online: 300 USD หรือ 10,347.00 บาท / สอบได้คนละ 5 ครั้งต่อปีเท่านั้น และรอผลคะแนนสอบภายใน 2 สัปดาห์หลังสอบ
สถานที่สอบ: ผู้สอบสามารถเลือกได้ 2 แบบระหว่าง สอบแบบ Online หรือ On-site โดย อัพเดทล่าสุด ปี2025 ในประเทศไทย สำหรับการสอบแบบ On-site มีสถานที่เปิดสอบ 2 จังหวัดด้วยกันคือ
1.จังหวัดกรุงเทพมหานคร
- Pearson Professional Centers : ชั้น 10 ห้อง 1010 อาคาร Bangkok Business (ตึก BB / Emirates) เลขที่ 54 ถนน สุขุมวิท 21 (อโศก) กรุงเทพฯ
- Paradigm Education
2. จังหวัดเชียงใหม่
- A&A Neo Technology: 248/55-56 ถนน มณีนพรัตน์ ตำบล ศรีภูมิ อำเภอ เมือง จังหวัด เชียงใหม่
ตัวอย่างข้อสอบ GMAT
1.(Quantitative Part) If r and s are positive integers such that (2^r)(4^s) = 16, then 2r + s =?
- (A) 2
- (B) 3
- (C) 4
- (D) 5
- (E) 6
[ข้อนี้ตอบ (D) 5 เพราะมีกรณีเดียวที่ทำให้ (2^r)(4^s) = 16 โดยที่ r และ s เป็น positive integers นั่งคือ r=2 และ s=1 (โดยที่ 0 ไม่ใช่ positive integer)]
2. (Verbal Part) Since the deregulation of airlines, delays at the nation's increasingly busy airports have increased by 25 percent. To combat this problem, more of the takeoff and landing slots at the busiest airports must be allocated to commercial airlines.
Which of the following, if true, casts the most doubt on the effectiveness of the solution proposed above?
(A) The major causes of delays at the nation's busiest airports are bad weather and overtaxed air traffic control equipment.
(B) Since airline deregulation began, the number of airplanes in operation has increased by 25 percent.
(C) Over 60 percent of the takeoff and landing slots at the nation's busiest airports are reserved for commercial airlines.
(D) After a small mid western airport doubled its allocation of takeoff and landing slots, the number of delays that were reported decreased by 50 percent.
(E) Since deregulation the average length of delay at the nation's busiest airports has doubled.
ตอบ (A)
คะแนนเฉลี่ยยื่น GMAT และแนะนำมหาลัยที่สามารถใช้ยื่นได้
- โดยทั่วไปแล้วหลักสูตร MBA ชั้นนำกำหนดให้มีคะแนน GMAT ระหว่าง 550 ถึง 730 คะแนน
- มหาลัยที่ใช้คะแนน GMAT เช่น Harvard, Stanford และ Wharton มีคะแนน GMAT เฉลี่ยที่กำหนดไว้ที่ประมาณ 730-735 คะแนน
ข้อแตกต่างของ GMAT กับ GRE
จุดประสงค์ที่ใช้:
- GMAT (Graduate Management Admission Test) เน้นใช้สำหรับการสมัครเข้าเรียนในหลักสูตรบริหารธุรกิจ (MBA) หรือหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ
- GRE (Graduate Record Examination) ใช้สำหรับสมัครเรียนในหลักสูตรบัณฑิตศึกษาหลากหลายสาขา รวมทั้ง MBA, ปริญญาโท และ ปริญญาเอก ซึ่งคะแนนสอบ GRE มีความยืดหยุ่นกว่า GMAT
ราคา (In general update 2025):
- GMAT : $275 หรือ 9,482.82 บาท
- GRE : $220 หรือ 7,585.60 บาท
โครงสร้างของข้อสอบ (อัพเดท 2025):
GMAT (คะแนนรวมทั้งหมด 205-805 คะแนน) มีทั้งหมด 3 ส่วน ระยะเวลา 2 ชั่วโมง 15 นาที ประกอบด้วย
- Quantitative Reasoning วัดความสามารถคณิตศาสตร์และเหตุผลเชิงปริมาณ
- Verbal Reasoning วัดทักษะการอ่าน การทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงภาษา
- Data Insights วัดความสามารถในการวิเคราะห์ตีความข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น กราฟ ตาราง และข้อมูลหลายแหล่ง
GRE (คะแนนรวมทั้งหมด 260-340 คะแนน) มีทั้งหมด 4 ส่วน ระยะเวลา 3 ชั่วโมง 45นาที ประกอบด้วย
- Analytical Writing ทดสอบการเขียนเชิงวิเคราะห์
- Verbal Reasoning ทดสอบภาษาอังกฤษ
- Quantitative ทดสอบคณิตศาสตร์
- Experimental/research section เขียนบทความ
ความยาก: GMAT ยากกว่า GRE เนื่องจาก GMAT มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่าทางสาขาธุรกิจ(MBA) และการจัดการ
หากกำลังมองหามหาลัยในการเรียนต่อ MBA หรือคณะ หลักสูตรอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ Education Portal