Logo
  • Pro Profile
  • Jobs
  • Career
    Career PathwayGrowthEducationInspirationPersonality
    Jobs & IndustriesJob SearchResume & PortfolioSalaryWell-being
  • Education
    Online CoursesMasters Programs
  • Resume Builder
  • Corporate Users



  • Jobcadu Logo

    Best career platform for job search, recruitment, career assessment & education

    20,000+

    Jobs

    Jobs Functions

    Administration & Office

    Marketing

    Customer Service

    Information Technology (IT)

    Accounting & Finance

    Human Resources & People

    Production & Supply Chain

    Engineering

    For Job Seekers

    Jobs

    Resume Builder

    Education Resources

    Resume Resources

    For Corporate Users

    Post Jobs

    Pricing

    Resources

    About Us

    Terms of Use

    Privacy Policy


    © 2025 Jobcadu. All rights reserved

    เรียนต่ออะไรดี? รวม 10 สาขาน่าเรียน ไม่ตกงาน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

    Education
    1. Home

    2. Careers

    3. เรียนต่ออะไรดี? รวม 10 สาขาน่าเรียน ไม่ตกงาน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

    เรียนต่ออะไรดี? รวม 10 สาขาน่าเรียน ไม่ตกงาน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

    Posted February 24, 2025

    Career

    เรียนต่อต่างประเทศ
    เรียนต่อปริญญาโท
    เรียนต่อ
    Study Abroad
    เรียนต่ออะไรดี? รวม 10 สาขาน่าเรียน ไม่ตกงาน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

    ทำไมต้องเรียนต่อ?

    ในยุคที่ตลาดแรงงานมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ การเรียนต่อเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและยกระดับอาชีพของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อในระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโท การศึกษาต่อสามารถช่วยให้เราได้รับทักษะเฉพาะทางและสร้างความได้เปรียบในการทำงาน นอกจากนี้ การเรียนต่อต่างประเทศยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสวัฒนธรรมใหม่ ๆ สร้างคอนเนคชั่นในอุตสาหกรรมและพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษหรือภาษาอื่น ๆ อีกด้วย


    เรียนต่อต่างประเทศ เรียนตรีหรือโทดี?


    • ปริญญาตรี: เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้องการเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ทักษะพื้นฐานของสาขาวิชาต่าง ๆ และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับอาชีพในอนาคต
    • ปริญญาโท: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มพูนความเชี่ยวชาญในสาขาเฉพาะทาง และมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความรู้เชิงลึก รวมถึงเปิดโอกาสในสายอาชีพที่มีตำแหน่งสูงขึ้นหรือเงินเดือนที่ดีกว่า


    10 สาขาน่าเรียนทั้งในไทยและต่างประเทศ


    1. Data Science & Artificial Intelligence (AI)

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Stanford University (สหรัฐอเมริกา), University of Oxford (สหราชอาณาจักร), National University of Singapore (สิงคโปร์)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 50,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Data Scientist, Machine Learning Engineer, AI Researcher
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 70,000 - 150,000 USD ต่อปี


    2. Cybersecurity

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Carnegie Mellon University (สหรัฐอเมริกา), ETH Zurich (สวิตเซอร์แลนด์)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 25,000 - 45,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Cybersecurity Analyst, Ethical Hacker, Security Consultant
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 80,000 - 140,000 USD ต่อปี


    3. Biomedical Engineering

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Johns Hopkins University (สหรัฐอเมริกา), Imperial College London (สหราชอาณาจักร)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 30,000 - 55,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Biomedical Engineer, Medical Device Developer
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 60,000 - 120,000 USD ต่อปี


    4. Digital Marketing

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of Melbourne (ออสเตรเลีย), ESSEC Business School (ฝรั่งเศส)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 40,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Digital Marketing Manager, SEO Specialist, Social Media/ Digital Strategist
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 50,000 - 100,000 USD ต่อปี


    5. Sustainable Energy Engineering

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Technical University of Denmark (เดนมาร์ก), TU Delft (เนเธอร์แลนด์)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 15,000 - 35,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Renewable Energy Consultant, Environmental Engineer
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 70,000 - 130,000 USD ต่อปี


    6. Business Administration (MBA)

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Harvard Business School (สหรัฐอเมริกา), Stanford Graduate School of Business
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 50,000 - 80,000 USD ต่อปี
    • อาชีพที่สามารถประกอบได้: Business Consultant, Investment Banker, CEO
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 100,000 - 200,000 USD ต่อปี


    7. Computer Science

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: Massachusetts Institute of Technology (MIT) (สหรัฐอเมริกา), University of Cambridge (สหราชอาณาจักร)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 30,000 - 60,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Software Engineer, Systems Architect
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 80,000 - 150,000 USD ต่อปี


    8. Architecture

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of California, Berkeley (สหรัฐอเมริกา), ETH Zurich (สวิตเซอร์แลนด์)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 25,000 - 50,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Architect, Urban Planner
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 50,000 - 120,000 USD ต่อปี


    9. International Relations

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: London School of Economics (สหราชอาณาจักร), Sciences Po (ฝรั่งเศส)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 45,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Diplomat, Policy Analyst
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 60,000 - 110,000 USD ต่อปี


    10. Environmental Science

    • มหาวิทยาลัยแนะนำ: University of British Columbia (แคนาดา), Australian National University (ออสเตรเลีย)
    • ค่าเทอมโดยประมาณ: 20,000 - 40,000 USD ต่อปี
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้: Environmental Consultant, Sustainability Manager
    • เงินเดือนเฉลี่ย: 55,000 - 100,000 USD ต่อปี


    เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้อะไรบ้าง?



    1.วุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้อง: เช่น ใบปริญญาตรีสำหรับเรียนต่อโท หรือวุฒิมัธยมศึกษาสำหรับปริญญาตรี

    2.ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ: เช่น IELTS, TOEFL หรือภาษาท้องถิ่นของประเทศที่ต้องการไปเรียน

    3.จดหมายแนะนำ (Letter of Recommendation): จากอาจารย์หรือผู้ที่เคยทำงานร่วมกัน

    4.Statement of Purpose (SOP) หรือ Personal Statement: บรรยายเหตุผลที่ต้องการเรียนต่อในสาขานั้น ๆ

    5.Portfolio (ถ้ามี): สำหรับสายงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ สถาปัตยกรรม หรือสาขาที่ต้องใช้ผลงานประกอบการสมัคร

    6.ผลสอบมาตรฐานอื่น ๆ (ถ้าจำเป็น): เช่น GMAT, GRE สำหรับหลักสูตรธุรกิจหรือวิทยาศาสตร์บางสาขา

    7.เอกสารทางการเงิน: หลักฐานแสดงความสามารถทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองบัญชีธนาคาร เพื่อขอวีซ่านักเรียน

    8.วีซ่านักเรียน: ต้องตรวจสอบข้อกำหนดของแต่ละประเทศ

    9.ประกันสุขภาพนักเรียนต่างชาติ: บางมหาวิทยาลัยกำหนดให้ต้องมีประกันสุขภาพ


    เรียนต่อต่างประเทศต้องใช้เงินเท่าไหร่?

    ค่าใช้จ่ายในการเรียนต่อต่างประเทศขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเทศที่เลือก มหาวิทยาลัย สาขาวิชา และค่าครองชีพในเมืองที่อยู่ โดยค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ได้แก่:


    1. ค่าเล่าเรียน

    • สหรัฐอเมริกา: $20,000 - $80,000 ต่อปี (ประมาณ 590,000-2,690,000 บาท)
    • สหราชอาณาจักร: £10,000 - £40,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,700,000 บาท)
    • ออสเตรเลีย: AUD 20,000 - AUD 50,000 ต่อปี (ประมาณ 420,000-1,070,000 บาท)
    • แคนาดา: CAD 15,000 - CAD 40,000 ต่อปี (ประมาณ 355,000- 949,000 บาท)
    • ยุโรป (เช่น เยอรมนี, ฝรั่งเศส, เนเธอร์แลนด์): บางประเทศมีค่าเล่าเรียนต่ำหรือไม่มีเลย (ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)


    2. ค่าครองชีพ

    • สหรัฐอเมริกา: $1,000 - $2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 33,000-84,000 บาท)
    • สหราชอาณาจักร: £800 - £2,000 ต่อเดือน (ประมาณ 34,000-85,000 บาท)
    • ออสเตรเลีย: AUD 1,200 - AUD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 25,000-53,000 บาท)
    • แคนาดา: CAD 1,000 - CAD 2,500 ต่อเดือน (ประมาณ 23,000-59,000 บาท)
    • ยุโรป: €600 - €1,500 ต่อเดือน (ประมาณ 21,000-52,000 บาท)


    3. ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

    • ค่าหนังสือและอุปกรณ์การเรียน: $500 - $2,000 ต่อปี
    • ค่าประกันสุขภาพ: $500 - $2,000 ต่อปี
    • ค่าเดินทาง (ตั๋วเครื่องบินไปกลับ): $800 - $2,500 ขึ้นอยู่กับระยะทาง


    รวมค่าใช้จ่ายต่อปี: โดยเฉลี่ยแล้ว นักศึกษาต่างชาติอาจต้องใช้เงินประมาณ $30,000 - $100,000 ต่อปี ขึ้นอยู่กับประเทศและมหาวิทยาลัยที่เลือก


    ทุนการศึกษาในการเรียนต่อต่างประเทศ

    หากต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย สามารถสมัครทุนการศึกษาจากแหล่งต่าง ๆ เช่น:

    • ทุนรัฐบาล เช่น Fulbright (สหรัฐอเมริกา), Chevening (สหราชอาณาจักร), DAAD (เยอรมนี)
    • ทุนมหาวิทยาลัย เช่น Gates Cambridge Scholarship, Australia Awards
    • ทุนจากองค์กรเอกชนและมูลนิธิต่าง ๆ


    การวางแผนค่าใช้จ่ายและมองหาทุนการศึกษาเป็นวิธีที่ช่วยให้การเรียนต่อต่างประเทศเป็นไปได้ง่ายขึ้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ


    10 สาขาน่าเรียนต่อในไทย


    1. บริหารธุรกิจและการบัญชี

    • รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านการจัดการธุรกิจ การเงิน การตลาด และการบัญชี เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานในองค์กรต่าง ๆ
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 17,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. นักบัญชี (Accountant) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 25,000 บาท/เดือน
    2. นักวิเคราะห์ทางการเงิน (Financial Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน
    3. ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
    4. ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 45,000 บาท/เดือน
    5. ผู้บริหาร (Business Executive) – รายได้เริ่มต้น 30,000 - 70,000 บาท/เดือน


    2. วิศวกรรมศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบ พัฒนา และบำรุงรักษาระบบและโครงสร้างต่าง ๆ ในหลากหลายสาขา เช่น วิศวกรรมไฟฟ้า วิศวกรรมเครื่องกล และวิศวกรรมโยธา
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 18,200 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. วิศวกรไฟฟ้า (Electrical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 35,000 บาท/เดือน
    2. วิศวกรเครื่องกล (Mechanical Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 45,000 บาท/เดือน
    3. วิศวกรโยธา (Civil Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 28,000 - 40,000 บาท/เดือน
    4. ผู้จัดการโครงการ (Project Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน


    3. นิติศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับกฎหมายและระบบกฎหมาย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นนักกฎหมาย
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 24,000 บาท (ในภาคการศึกษาแรกหลังรวมค่าธรรมเนียมอื่นๆ)
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. ทนายความ (Lawyer) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 40,000 บาท/เดือน
    2. ที่ปรึกษากฎหมาย (Legal Advisor) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 70,000 บาท/เดือน
    3. ผู้พิพากษา (Judge) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
    4. อัยการ (Prosecutor) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน


    4. แพทยศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการแพทย์และการรักษาโรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นแพทย์
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    • ค่าเล่าเรียน: ภาคการศึกษาละ 30,000 บาท
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. แพทย์ (Medical Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
    2. ศัลยแพทย์ (Surgeon) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 120,000 บาท/เดือน
    3. แพทย์เฉพาะทาง (Specialist Doctor) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน
    4. แพทย์ในโรงพยาบาลเอกชน (Private Hospital Doctor) – รายได้สูงกว่า 200,000 บาท/เดือน


    5. วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ ระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • ค่าเล่าเรียน: หลักสูตรปกติ12,000 บาท/เทอม , โครงการพิเศษ 30,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
    2. วิศวกรระบบ (Systems Engineer) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน
    3. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 25,000 - 50,000 บาท/เดือน
    4. ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI (AI Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 60,000 - 100,000 บาท/เดือน


    6. นิเทศศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสื่อสารมวลชน การประชาสัมพันธ์ และสื่อสารการตลาด
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 21,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. นักข่าว (Journalist) – เงินเดือนเริ่มต้น 15,000 - 30,000 บาท/เดือน
    2. นักประชาสัมพันธ์ (PR Specialist) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน
    3. ผู้จัดการการตลาด (Marketing Manager) – เงินเดือนเริ่มต้น 50,000 - 100,000 บาท/เดือน
    4. คอนเทนต์ครีเอเตอร์ (Content Creator) – เงินเดือนเริ่มต้น 18,000 - 40,000 บาท/เดือน


    7. เศรษฐศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ การวิเคราะห์เศรษฐกิจ และนโยบายเศรษฐกิจ
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 28,400 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. นักเศรษฐศาสตร์ (Economist) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
    2. นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ (Economic Analyst) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 80,000 บาท/เดือน
    3. ผู้บริหารธนาคาร (Bank Executive) – เงินเดือนเริ่มต้น 100,000 บาท/เดือน


    8. ศึกษาศาสตร์

    • รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการสอนและการบริหารการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นครูหรือผู้บริหารการศึกษา
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 20,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. ครู (Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
    2. ผู้บริหารโรงเรียน (School Administrator) – เงินเดือนเริ่มต้น 40,000 - 70,000 บาท/เดือน
    3. ที่ปรึกษาด้านการศึกษา (Education Consultant) – เงินเดือนเริ่มต้น 30,000 - 60,000 บาท/เดือน


    9. ภาษาต่างประเทศ

    • รายละเอียดหลักสูตร: มุ่งเน้นการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่น
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 15,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. ล่าม (Interpreter) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
    2. นักแปล (Translator) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 35,000 บาท/เดือน
    3. ผู้สอนภาษาต่างประเทศ (Foreign Language Teacher) – เงินเดือนเริ่มต้น 20,000 - 50,000 บาท/เดือน


    10. เทคโนโลยีสารสนเทศ

    • รายละเอียดหลักสูตร: ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร
    • ตัวอย่างมหาวิทยาลัย: สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น
    • ค่าเล่าเรียน: เฉลี่ยค่าเทอมแต่ละคณะ ประมาณ 45,000 - 50,000 บาท/เทอม
    • ตัวอย่างอาชีพที่สามารถประกอบได้:
    1. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) - เงินเดือนเริ่มต้น: 30,000 - 50,000 บาท/เดือน
    2. นักวิเคราะห์ระบบ (Systems Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 35,000 - 55,000 บาท/เดือน
    3. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) - เงินเดือนเริ่มต้น: 25,000 - 45,000 บาท/เดือน
    4. ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ (Cybersecurity Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 80,000 บาท/เดือน
    5. ผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์ (Cloud Specialist) - เงินเดือนเริ่มต้น: 45,000 - 70,000 บาท/เดือน
    6. ผู้จัดการโครงการเทคโนโลยี (IT Project Manager) - เงินเดือนเริ่มต้น: 50,000 - 100,000 บาท/เดือน


    นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติที่มีคุณภาพไม่แพ้กับการเรียนที่ต่างประเทศเลย เช่น


    1. มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (Assumption University - ABAC)

    • คณะบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ (MSME): เป็นคณะที่ใหญ่ที่สุดและมีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย มุ่งเน้นการพัฒนานักศึกษาให้เป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับศิษย์เก่าและภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ
    • เกณฑ์การรับสมัคร: นักศึกษาสามารถสมัครเข้าเรียนได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษหรือคณิตศาสตร์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยมีการจัดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์เอง อย่างไรก็ตาม หากมีผลคะแนน TOEFL (iBT) ≥ 60 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0 จะได้รับการยกเว้นบางวิชา
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 70,000 บาท/เทอม


    2. วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล (Mahidol University International College - MUIC)

    • สาขาวิชาบริหารธุรกิจ: มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะด้านการจัดการธุรกิจในระดับสากล
    • สาขาวิชาวิทยาศาสตร์: เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    • สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์: เตรียมความพร้อมให้นักศึกษาในด้านวิศวกรรมคอมพิวเตอร์
    • เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS ≥ 6.0 (โดย Writing ≥ 6.0) หรือ TOEFL (iBT) ≥ 69 (โดย Writing ≥ 22)
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 200,000 - 300,000 บาท/เทอม


    3. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chulalongkorn University)

    • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (International Program in Design and Architecture - INDA): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการออกแบบและสถาปัตยกรรม
    • คณะบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration - BBA): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นการจัดการธุรกิจในระดับสากล
    • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (International School of Engineering - ISE): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์
    • ค่าเล่าเรียน: คณะ INDA ประมาณ 417,750 บาทต่อปี, คณะ BBA ประมาณ 251,250 บาทต่อปี, คณะ ISE ประมาณ 219,000 บาทต่อปี


    4. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Thammasat University)

    • คณะบริหารธุรกิจ (Bachelor of Business Administration - BBA): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นการจัดการธุรกิจในระดับสากล
    • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (Thammasat English Programme of Engineering - TEPE): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์
    • เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 80 หรือ IELTS (Academic) ≥ 6.0 และคะแนน SAT (Math) ≥ 600
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 90,000 - 101,000 บาท/เทอม


    5. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang - KMITL)

    • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (International College): หลักสูตรนานาชาติที่มุ่งเน้นด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
    • คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ (School of Architecture, Art, and Design): หลักสูตรนานาชาติที่เน้นการออกแบบและสถาปัตยกรรม
    • เกณฑ์การรับสมัคร: ต้องมีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL (iBT) ≥ 61 หรือ IELTS (Academic) ≥ 5.0
    • ค่าเล่าเรียน: ประมาณ 92,500 -100,000 บาท/เทอม


    การเรียนต่อไม่ใช่แค่โอกาสในการเพิ่มพูนความรู้ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการสร้างเส้นทางอาชีพและพัฒนาตัวเองในระดับสากล ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อในไทยหรือต่างประเทศ การวางแผนล่วงหน้าและเลือกสาขาที่เหมาะสมกับความสนใจและตลาดแรงงานเป็นสิ่งสำคัญ


    สำหรับผู้ที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าใช้จ่าย เอกสารที่ต้องใช้ และโอกาสทางอาชีพหลังเรียนจบ 

    หากใครกำลังมองหาแนวทางในการเรียนต่อทั้งในไทยเเละต่างประเทศหรืออัปสกิลเพื่อต่อยอดอาชีพ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Education Portal


    Table of Contents

    No table of contents found for this career.


    Related Careers
    Thumbnail for 6 Best Countries to Study Abroad

    6 Best Countries to Study Abroad

    Nowadays, many people plan to study abroad due to various factors that make living in a foreign country more accessible, such as social media, having relatives abroad, or improved transportation systems. However, some may still be uncertain or searching for the best country to study in. Today, Jobcadu introduces six countries that are ideal for further education. Let’s explore them!

    Mar 6, 2025
    4 min
    Thumbnail for Techniques for Writing CV/Resume for Studying Abroad

    Techniques for Writing CV/Resume for Studying Abroad

    When applying to study abroad, in addition to preparing standardized test scores such as TOEFL, IELTS, GMAT, or GRE, there are other important documents required for the application process, including Statement of Purpose (SOP), Transcripts, Letters of Recommendation, and CV or Resume. These documents help showcase the applicant’s skills, experience, and academic achievements, allowing universities or admission committees to assess whether the applicant is a suitable fit for the program.When applying to study abroad, in addition to preparing standardized test scores such as TOEFL, IELTS, GMAT, or GRE, there are other important documents required for the application process, including Statement of Purpose (SOP), Transcripts, Letters of Recommendation, and CV or Resume. These documents help showcase the applicant’s skills, experience, and academic achievements, allowing universities or admission committees to assess whether the applicant is a suitable fit for the program.When applying to study abroad, in addition to preparing standardized test scores such as TOEFL, IELTS, GMAT, or GRE, there are other important documents required for the application process, including Statement of Purpose (SOP), Transcripts, Letters of Recommendation, and CV or Resume. These documents help showcase the applicant’s skills, experience, and academic achievements, allowing universities or admission committees to assess whether the applicant is a suitable fit for the program.

    Feb 24, 2025
    4 min
    Thumbnail for GMAT: A Popular Standardized Test for Graduate Studies

    GMAT: A Popular Standardized Test for Graduate Studies

    In the present day, studying abroad or moving to live in foreign countries is no longer a distant dream. Many families or readers are now looking for institutions offering postgraduate degrees both domestically and internationally. Not only that, but each institution has different admission requirements, including tuition fees, living expenses, and standardized test scores that are necessary for the application process. Today, we will discuss a widely recognized standardized test for studying abroad, which is GMAT.

    Feb 24, 2025
    4 min
    Thumbnail for What Should You Study? 10 In-Demand Majors to Ensure Job Security Abroad

    What Should You Study? 10 In-Demand Majors to Ensure Job Security Abroad

    Wondering what to study to ensure career success? Check out these top 10 degrees that guarantee job security abroad. Start your journey toward a fulfilling career today!

    Feb 24, 2025
    5 min
    Thumbnail for Step Into the Harvard MBA Case Classroom

    Step Into the Harvard MBA Case Classroom

    Explore the transformative MBA experience to develop leadership, decision-making, and stakeholder analysis skills while embracing cultural diversity. Learn how an MBA prepares you for career success!

    Feb 24, 2025
    2 min
    Thumbnail for Learn More in Less Time: The Feynman Technique Explained

    Learn More in Less Time: The Feynman Technique Explained

    Introducing the Feynman Technique, an effective learning method named after the famous physicist Richard Feynman. The technique emphasizes that explaining concepts clearly to others helps us understand them more deeply.

    Feb 19, 2025
    1 min
    Thumbnail for 12 Free Udemy Courses You Shouldn't Miss

    12 Free Udemy Courses You Shouldn't Miss

    In an era where online learning has become a popular choice for those looking to develop skills and expand knowledge in their careers or personal interests, Udemy has emerged as one of the top platforms for skill development in digital, tech, marketing, and many other fields over the past 3–5 years.

    Feb 19, 2025
    4 min
    Thumbnail for 5 Best Online Learning Platforms

    5 Best Online Learning Platforms

    The top 5 online learning platforms , including Coursera, Skillshare, Udemy, EdX, and LinkedIn Learning.

    Feb 19, 2025
    1 min
    Thumbnail for 5 Platforms/Websites to Master English – Improve Speaking, Reading, and Writing Skills

    5 Platforms/Websites to Master English – Improve Speaking, Reading, and Writing Skills

    Want to master English? You don’t need to spend a fortune! With today’s advanced technology, there are plenty of platforms and websites that offer English learning courses both free and paid with impressive results. Whether you want to improve listening, speaking, reading, or writing skills, here are five online platforms that will help you achieve fluency in English.

    Feb 17, 2025
    3 min
    Thumbnail for Is an MBA Worth It? | 5 Key Factors to Consider

    Is an MBA Worth It? | 5 Key Factors to Consider

    Thinking about pursuing an MBA? Before making your decision, check out these 5 key factors to see if it's the right choice for your career.

    Feb 17, 2025
    3 min