Logo
  • โปรไฟล์มืออาชีพ
  • งาน
  • อาชีพ
    เส้นทางอาชีพ
    การเติบโต
    การศึกษา
    แรงบันดาลใจ
    บุคลิกภาพ
    งานและอุตสาหกรรม
    การค้นหางาน
    ประวัติ & ผลงาน
    เงินเดือน
    ความเป็นอยู่ที่ดี
  • การศึกษา
    หลักสูตร
    โปรแกรม
  • เครื่องมือสร้างเรซูเม่
  • สำหรับผู้ใช้งานองค์กร



  • Jobcadu Logo

    แพลตฟอร์มอาชีพที่ดีที่สุดสำหรับการหางาน, การสรรหาบุคลากร, ค้นหาอาชีพ และค้นพบแหล่งการศึกษา

    10,000+

    หน้าหางาน

    งานตามหมวดหมู่

    การบริหารและสำนักงาน

    การตลาด

    บริการลูกค้า

    เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)

    บัญชีและการเงิน

    ทรัพยากรบุคคลและการจัดการคน

    การผลิตและห่วงโซ่อุปทาน

    วิศวกรรม

    สำหรับผู้หางาน

    หน้าหางาน

    เครื่องมือสร้างเรซูเม่

    ทรัพยากรด้านการศึกษา

    ทรัพยากรเรซูเม่

    สำหรับผู้ใช้งานองค์กร

    ประกาศงาน

    ราคา

    แหล่งข้อมูล

    เกี่ยวกับเรา

    ข้อกำหนดการใช้งาน

    นโยบายความเป็นส่วนตัว


    © 2025 Jobcadu. สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

    Careerist EP 15: ครีเอทีฟ หนึ่งในนักคิดสุดสร้างสรรค์ที่สื่อออกมาเป็นผลงาน คืออาชีพอะไร ทำไมทุกวงการต้องมี

    Jobs & Industries
    1. Home

    2. Careers

    3. Careerist EP 15: ครีเอทีฟ หนึ่งในนักคิดสุดสร้างสรรค์ที่สื่อออกมาเป็นผลงาน คืออาชีพอะไร ทำไมทุกวงการต้องมี

    Careerist EP 15: ครีเอทีฟ หนึ่งในนักคิดสุดสร้างสรรค์ที่สื่อออกมาเป็นผลงาน คืออาชีพอะไร ทำไมทุกวงการต้องมี

    Posted January 30, 2025

    Design & Creative

    หางาน
    creative
    creativejob
    ครีเอทีฟ
    หางานครีเอทีฟ
    เอเจนซี่
    Careerist EP 15: ครีเอทีฟ หนึ่งในนักคิดสุดสร้างสรรค์ที่สื่อออกมาเป็นผลงาน คืออาชีพอะไร ทำไมทุกวงการต้องมี
    Career Path Description

    ครีเอทีฟ (Creative) คือตำแหน่งงานที่เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของหลาย ๆ องค์กร ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่ บริษัทโฆษณา หรือแม้กระทั่งบริษัททั่วไปที่ต้องการสร้างความแตกต่างและน่าจดจำให้กับแบรนด์ของตนเอง ครีเอทีฟคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์ที่นำไปสู่ผลงานที่น่าสนใจและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย


    ครีเอทีฟ คืออะไร?

    ครีเอทีฟคือผู้ที่มีความสามารถในการคิดเชิงสร้างสรรค์ (Creative Thinking) เพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าหรือองค์กร โดยผลงานนั้นอาจอยู่ในรูปแบบของไอเดีย ข้อความ ภาพ เสียง หรือวิดีโอ


    ครีเอทีฟต้องทำอะไรบ้าง?

    หน้าที่ของครีเอทีฟมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและประเภทขององค์กร โดยทั่วไปแล้ว ครีเอทีฟต้องทำหน้าที่:


    • คิดค้นไอเดียและพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์
    • วางแผนและออกแบบผลงาน
    • ประสานงานกับทีมงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กราฟิกดีไซเนอร์ ผู้กำกับ หรือผู้ผลิต
    • นำเสนอผลงานต่อลูกค้าหรือผู้บริหาร
    • ปรับปรุงและพัฒนาผลงานตามความเหมาะสม


    ครีเอทีฟต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง?


    • ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity): สามารถนำเสนอไอเดียที่แตกต่างและน่าสนใจ
    • ความสามารถในการเล่าเรื่อง (Storytelling): สามารถถ่ายทอดไอเดียออกมาให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจ
    • ความสามารถในการวิเคราะห์ (Analytical skills): ตีโจทย์และเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค
    • ความสามารถด้านการสื่อสาร (Effective Communication): ทำงานร่วมกับทีมได้ดี และนำเสนอไอเดียให้ชัดเจน
    • ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability): สามารถปรับเปลี่ยนไอเดียตามข้อจำกัดของโปรเจกต์หรือความคิดเห็นจากลูกค้า


    นอกจากนี้ ครีเอทีฟยังต้องเป็นคนที่ชอบเสพสื่อหลากหลายรูปแบบ เพื่อนำมาเป็นแรงบันดาลใจและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตนเอง


    ครีเอทีฟเงินเดือนเยอะไหม?

    อัตราเงินเดือนของครีเอทีฟขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ประสบการณ์ ความสามารถ และขนาดขององค์กร โดยทั่วไปแล้ว ครีเอทีฟที่มีประสบการณ์และมีความสามารถสูงมักจะได้รับเงินเดือนที่สูง


    • ระดับเริ่มต้น: 20,000 - 30,000 บาทต่อเดือน
    • ระดับกลาง: 40,000 - 70,000 บาทต่อเดือน
    • ระดับสูง (Creative Director): 80,000 - 150,000 บาทขึ้นไป


    ครีเอทีฟไม่ได้มีแค่ตำแหน่งเดียว

    หลายคนอาจคิดว่าครีเอทีฟมีหน้าที่เพียงแค่คิดไอเดีย แต่จริง ๆ แล้ว ครีเอทีฟยังต้องเข้าใจเรื่อง Guideline ของแบรนด์ วางแผน Copywriting และออกแบบองค์ประกอบภาพ เช่น Thumbnail หรือโครงสร้างคอนเทนต์ เพื่อให้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ครีเอทีฟยังแบ่งออกเป็นหลายสายงาน เช่น Art Director, Copywriter, Content Creator และอื่น ๆ


    ครีเอทีฟ vs ครีเอเตอร์ ต่างกันยังไง?


    • ครีเอทีฟ (Creative): เน้นการคิดและพัฒนาไอเดีย สร้างคอนเซปต์งานเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์หรือแคมเปญ
    • ครีเอเตอร์ (Creator): เน้นการผลิตคอนเทนต์จริง เช่น ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ หรือออกแบบโพสต์ให้ตรงกับแนวคิดที่ครีเอทีฟวางไว้


    หรือสรุปง่าย ๆ คือ ครีเอทีฟเป็นผู้กำหนดแนวทาง ส่วนครีเอเตอร์เป็นผู้ลงมือทำให้งานออกมาเป็นผลงาน


    หากใครที่กำลังมองหางานสายครีเอทีฟ ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่หรือ In-House ก็สามารถหางานได้ที่ Job Portal 


    Related Skills & Areas
    หางาน
    creative
    creativejob
    ครีเอทีฟ
    หางานครีเอทีฟ
    เอเจนซี่


    อาชีพที่เกี่ยวข้อง
    Thumbnail for 10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายงานการตลาด
    Jobs & Industries

    10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายงานการตลาด

    อาชีพที่ให้ค่าตอบแทนสูงเป็นเป้าหมายของหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในสายงานการตลาดที่มีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ ยิ่งในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจจึงต้องพึ่งพานักการตลาดที่มีทักษะเฉพาะทางเพื่อสร้างยอดขายและขยายตลาด อาชีพบางสายสามารถให้ค่าตอบแทนหลักแสนบาทต่อเดือนเลยทีเดียว มาดูกันว่าอาชีพไหนบ้างที่อยู่ในลิสต์นี้ 1. ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Officer-CMO) CMO เป็นผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบกลยุทธ์ทางการตลาดขององค์กร ทำหน้าที่กำหนดทิศทาง สร้างแบรนด์ วางแผนกลยุทธ์การตลาด และควบคุมงบประมาณด้านการตลาดทั้งหมดของบริษัท เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะที่จำเป็น: กลยุทธ์การตลาด, การบริหารงบประมาณ, การวิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างแบรนด์ เรตเงินเดือน: 90,000 - 300,000+ บาท 2. ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเชิงประสิทธิภาพ (Performance Marketing Manager) ตำแหน่งนี้เน้นการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing) โดยเน้นการเพิ่ม ROI (Return on Investment) ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น Google Ads, Facebook Ads และ SEO เพื่อเพิ่มยอดขายและลดต้นทุนในการทำการตลาด ทักษะที่จำเป็น: การวิเคราะห์ข้อมูล, Google Analytics, การตลาดดิจิทัล, การจัดการโฆษณาออนไลน์ เรตเงินเดือน: 70,000 - 95,000+ บาท 3. ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Director) ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนี้มีหน้าที่กำหนดกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ดูแลการใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Social Media, SEO, SEM และ Content Marketing ให้สามารถสร้างการมีส่วนร่วมและเพิ่มยอดขายของธุรกิจ ทักษะที่จำเป็น: การตลาดดิจิทัล การวางแผนกลยุทธ์ การจัดการทีม เรตเงินเดือน: 70,000 - 200,000+ บาท 4. ผู้จัดการแบรนด์ (Brand Manager) Brand Manager มีหน้าที่ดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และบริหารผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของบริษัท พวกเขาต้องวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและพัฒนาแนวทางการสื่อสารแบรนด์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย ทักษะที่จำเป็น: การสร้างแบรนด์ การบริหารผลิตภัณฑ์ การวิจัยตลาด เรตเงินเดือน: 70,000 - 150,000+ บาท 5. นักวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด (Data Analyst) นักวิเคราะห์ข้อมูลมีหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และตีความข้อมูลการตลาดเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำขึ้น โดยใช้เครื่องมือเช่น Google Analytics, SQL และ Power BI ทักษะที่จำเป็น: การวิเคราะห์ข้อมูล, Data Science, เครื่องมือ BI เรตเงินเดือน: 50,000 - 180,000+ บาท 6. ผู้จัดการสื่อโซเชียลมีเดีย (Social Media Manager) Social Media Manager ดูแลและบริหารช่องทางโซเชียลมีเดียของแบรนด์ เช่น Facebook, Instagram, Twitter และ TikTok โดยต้องสร้างคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและใช้กลยุทธ์เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วม (Engagement) ทักษะที่จำเป็น: การตลาดบนโซเชียลมีเดีย, การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค, การสร้างสรรค์คอนเทนต์ เรตเงินเดือน: 50,000 - 150,000+ บาท 7. ผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO (SEO Specialist) SEO Specialist มีหน้าที่เพิ่มอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของ Google และเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เพื่อให้เว็บไซต์ได้รับ Traffic แบบ Organic โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา พวกเขาต้องใช้เทคนิค On-page และ Off-page SEO รวมถึงวิเคราะห์คีย์เวิร์ดเพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับที่ดีที่สุด ทักษะที่จำเป็น: SEO, Google Analytics, การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เรตเงินเดือน: 40,000 - 180,000+ บาท 8. ผู้จัดการด้านการตลาดเนื้อหา (Content Marketing Manager) Content Marketing Manager มีหน้าที่วางกลยุทธ์และสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจผู้บริโภค เช่น บทความ วิดีโอ อินโฟกราฟิก หรือพอดแคสต์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ทักษะที่จำเป็น: การเขียนคอนเทนต์, Storytelling, กลยุทธ์การตลาด เรตเงินเดือน: 40,000 - 170,000+ บาท 9. ผู้จัดการฝ่ายอีคอมเมิร์ซ (E-commerce Manager) E-commerce Manager ดูแลการขายสินค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada และเว็บไซต์ของแบรนด์ โดยต้องบริหารสต็อกสินค้า วางแผนโปรโมชั่น และพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ของลูกค้า ทักษะที่จำเป็น: การบริหารแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ UX/UI การตลาดออนไลน์ เรตเงินเดือน: 50,000 - 200,000+ บาท 10.  ผู้จัดการด้านการตลาดอินฟลูเอนเซอร์เเละ KOL  (Influencer & KOL Marketing Manager) ตำแหน่งนี้รับผิดชอบการวางแผนและจัดการแคมเปญการตลาดที่ใช้ Influencer หรือ KOLs (Key Opinion Leaders) เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ โดยต้องเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสม วัดผลลัพธ์ และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาด ทักษะที่จำเป็น: Relationship management, กลยุทธ์การตลาด, การวิเคราะห์ผลลัพธ์ เรตเงินเดือน: 40,000 - 180,000+ บาท งานสายการตลาดเป็นหนึ่งในสายงานที่มีความต้องการสูงและให้ค่าตอบแทนที่ดี โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับการตลาดดิจิทัลและการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ การพัฒนาทักษะและความสามารถในด้านต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถก้าวหน้าในอาชีพและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เเละ​​หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    Digital marketing
    High-Paying Careers
    อาชีพมาแรง
    Mar 28, 2025
    2 min
    Thumbnail for 10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายวิศวะ
    Jobs & Industries

    10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายวิศวะ

    การมีรายได้สูงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของหลาย ๆ คน โดยเฉพาะในสายงานวิศวกรรม ซึ่งต้องอาศัยความรู้เฉพาะทางและทักษะที่ซับซ้อน อาชีพบางสายสามารถให้ค่าตอบแทนหลักแสนบาทต่อเดือนได้ หากมีประสบการณ์และความสามารถที่เหมาะสม มาดูกันว่า 10 อาชีพวิศวกรรมที่ให้ค่าตอบแทนสูงมีอะไรบ้าง 1. วิศวกรปิโตรเลียม (Petroleum Engineer) วิศวกรปิโตรเลียมทำหน้าที่ศึกษา ออกแบบ และพัฒนาเทคนิคในการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากแหล่งใต้ดินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการเพิ่มผลผลิตจากแหล่งพลังงานเดิมให้มากขึ้น พวกเขายังต้องวิเคราะห์ข้อมูลทางธรณีวิทยาและเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ทักษะที่จำเป็น: วิศวกรรมปิโตรเลียม, ธรณีวิทยา, การจำลองแหล่งพลังงาน เรตเงินเดือน: 80,000 - 300,000 บาท 2. วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) วิศวกรซอฟต์แวร์มีหน้าที่ออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของผู้ใช้ งานของพวกเขาครอบคลุมตั้งแต่การเขียนโปรแกรม การออกแบบโครงสร้างระบบ ไปจนถึงการแก้ไขข้อบกพร่องของซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ ทักษะที่จำเป็น: การเขียนโปรแกรม (Python, Java, C++), การออกแบบระบบ, การจัดการฐานข้อมูล เรตเงินเดือน: 40,000 - 200,000 บาท 3. วิศวกรหุ่นยนต์ (Robotics Engineer) วิศวกรหุ่นยนต์ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาหุ่นยนต์สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมและงานวิจัย เช่น หุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ทางการแพทย์ หรือหุ่นยนต์ช่วยเหลือในงานเฉพาะทาง โดยต้องพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างแม่นยำ ทักษะที่จำเป็น: วิศวกรรมเครื่องกล, อิเล็กทรอนิกส์ AI และการควบคุมอัตโนมัติ เรตเงินเดือน: 40,000 - 250,000 บาท 4. วิศวกรปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineer) วิศวกรปัญญาประดิษฐ์มีหน้าที่พัฒนาโมเดล AI และ Machine Learning เพื่อนำไปใช้ในระบบอัจฉริยะ เช่น ระบบแนะนำสินค้า ระบบวิเคราะห์ข้อมูล และรถยนต์ไร้คนขับ พวกเขาต้องวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ สร้างอัลกอริธึมที่สามารถเรียนรู้ได้ และปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ AI อย่างต่อเนื่อง ทักษะที่จำเป็น: การเขียนโปรแกรม, Data Science, อัลกอริธึม AI เรตเงินเดือน: 70,000 - 250,000 บาท 5. วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity Engineer) วิศวกรความปลอดภัยทางไซเบอร์ทำหน้าที่ปกป้องระบบคอมพิวเตอร์ เครือข่าย และข้อมูลจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น การโจมตีของแฮกเกอร์หรือมัลแวร์ โดยต้องออกแบบระบบความปลอดภัย ตรวจสอบช่องโหว่ และพัฒนาโซลูชันเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหล ทักษะที่จำเป็น: การเจาะระบบ, Ethical Hacking, ความปลอดภัยเครือข่าย เรตเงินเดือน: 60,000 - 220,000 บาท 6. วิศวกรระบบคลาวด์ (Cloud Engineer) วิศวกรระบบคลาวด์มีหน้าที่ออกแบบ ดูแล และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน Cloud Computing เช่น AWS, Azure และ Google Cloud พวกเขาต้องบริหารทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และเครือข่ายให้รองรับการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะที่จำเป็น: DevOps, Cloud Infrastructure เรตเงินเดือน: 50,000 - 200,000 บาท 7. วิศวกรเหมืองแร่ (Mining Engineer) วิศวกรเหมืองแร่ทำหน้าที่ออกแบบ วางแผน และควบคุมการขุดเจาะแร่ให้อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการวิเคราะห์คุณภาพแร่และกำหนดวิธีการสกัดแร่ที่มีประสิทธิภาพ ทักษะที่จำเป็น: ธรณีวิทยา, วิศวกรรมเหมืองแร่, การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เรตเงินเดือน: 50,000 - 250,000 บาท 8. วิศวกรอากาศยาน (Aerospace Engineer) วิศวกรอากาศยานมีหน้าที่ออกแบบ พัฒนา และทดสอบเครื่องบิน อวกาศยาน และระบบที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบขับเคลื่อน อากาศพลศาสตร์ และโครงสร้างของเครื่องบิน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ทักษะที่จำเป็น: วิศวกรรมเครื่องกล, Aerodynamics, การคำนวณโครงสร้าง เรตเงินเดือน: 50,000 - 300,000 บาท 9. วิศวกรพลังงาน (Energy Engineer) วิศวกรพลังงานทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาโซลูชันด้านพลังงาน เช่น พลังงานหมุนเวียน (โซลาร์เซลล์ พลังงานลม) หรือระบบผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทักษะที่จำเป็น: ไฟฟ้า, กลศาสตร์, พลังงานหมุนเวียน เรตเงินเดือน: 65,000 - 180,000 บาท 10. วิศวกรชีวการแพทย์ (Biomedical Engineer) วิศวกรชีวการแพทย์มีหน้าที่ออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ แขนขาเทียม และระบบวินิจฉัยโรค เพื่อให้แพทย์สามารถใช้เทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะที่จำเป็น: วิศวกรรมไฟฟ้า, ชีววิทยา, การออกแบบอุปกรณ์การแพทย์ เรตเงินเดือน: 35,000 - 200,000 บาท อาชีพในสายวิศวกรรมยังคงมีค่าตอบแทนสูง โดยเฉพาะอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี พลังงาน และอุตสาหกรรมเฉพาะทาง การพัฒนาทักษะและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้เรามีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เเละ​​หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    Engineering
    วิศวะ
    หางาน
    Mar 28, 2025
    2 min
    Thumbnail for รวม 10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายศิลป์และสายภาษา
    Jobs & Industries

    รวม 10 อาชีพเงินเดือนสูงสำหรับสายศิลป์และสายภาษา

    ในยุคที่เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หลายคนอาจมองข้ามความสำคัญของสายศิลป์และสายภาษา แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทักษะเหล่านี้ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดแรงงาน และมีอาชีพจำนวนไม่น้อยที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถด้านศิลป์ภาษาได้รับผลตอบแทนที่สูงหากมีทักษะที่เหมาะสมและความสามารถที่โดดเด่น มาดูกันว่ามีอาชีพใดบ้างที่ให้ค่าตอบแทนสูงสำหรับคนที่มีพื้นฐานด้านศิลป์และภาษา 1. นักแปลและล่าม (Translator/Interpreter) นักแปลและล่ามทำหน้าที่แปลเอกสารหรือสื่อต่างๆ จากภาษาหนึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่ง หรือแปลภาษาพูดในการประชุมหรือการสนทนา ทักษะที่จำเป็น: ความเชี่ยวชาญในภาษาต้นนั้น ๆ ภาษาเป้าหมาย เเละทักษะการสื่อสารที่ดี เรตเงินเดือน: 30,000 - 100,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ) 2. นักเขียนคำโฆษณา (Copywriter) Copywriter ทำหน้าที่สร้างสรรค์ข้อความที่น่าสนใจและดึงดูดใจเพื่อใช้ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ทักษะที่จำเป็น: ความคิดสร้างสรรค์, ทักษะการเขียน, ความเข้าใจในหลักการตลาด เรตเงินเดือน: 25,000 - 40,000 บาทขึ้นไป 3. บรรณาธิการ (Editor) บรรณาธิการทำหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขเนื้อหาต่างๆ ให้ถูกต้องตามหลักภาษาและมีความน่าสนใจ ทักษะที่จำเป็น: ความรู้ด้านภาษานั้น ๆ อย่างเชี่ยวชาญ, ความใส่ใจในรายละเอียด, ทักษะการสื่อสารที่ดี เรตเงินเดือน: 25,000 - 70,000 บาทขึ้นไป 4. นักออกแบบกราฟิก (Graphic Designer) นักออกแบบกราฟิกทำหน้าที่ในการสร้างสรรค์งานออกแบบต่างๆ เช่น โลโก้ โปสเตอร์ เว็บไซต์ เพื่อสื่อสารข้อมูลและสร้างความประทับใจ นักออกแบบที่มีเอกลักษณ์และสามารถสร้างสรรค์งานที่ดึงดูดใจตลาดสามารถสร้างรายได้ที่สูงได้ ทักษะที่จำเป็น: ความคิดสร้างสรรค์, ความรู้เกี่ยวกับโปรแกรมออกแบบ, ทักษะการสื่อสารด้วยภาพ เรตเงินเดือน: 20,000 - 60,000 บาทขึ้นไป 5. UX/UI Designer อาชีพนี้เป็นที่ต้องการสูงในยุคดิจิทัล UX/UI Designer มีหน้าที่ออกแบบประสบการณ์และอินเทอร์เฟซผู้ใช้สำหรับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเพื่อให้ใช้งานง่ายและดึงดูดใจ ทักษะที่จำเป็นคือการออกแบบกราฟิก การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ และความสามารถในการใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบเช่น Figma หรือ Adobe XD ทักษะที่จำเป็น: UX/UI Design (Figma, Adobe XD) ,User Research & Usability Testing ,Wireframing และ Prototyping เรตเงินเดือน: 30,000 - 80,000 บาทขึ้นไป 6. ผู้กำกับศิลป์ (Art Director) ผู้กำกับศิลป์ทำหน้าที่ดูแลและควบคุมทิศทางด้านศิลปะในการผลิตสื่อต่างๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา นิตยสาร ทักษะที่จำเป็น: ความคิดสร้างสรรค์, ทักษะการบริหารจัดการ, ทักษะการสื่อสารที่ดี เรตเงินเดือน: 30,000 - 60,000 บาทขึ้นไป 7. ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ (Creative Director) ครีเอทีฟไดเรกเตอร์มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมโฆษณาและสื่อสร้างสรรค์ เป็นผู้กำหนดแนวคิดหลักและควบคุมงานสร้างสรรค์ทั้งหมดของทีม ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญโฆษณา แบรนด์ดิ้ง หรือการผลิตเนื้อหาเพื่อสร้างอิทธิพลต่อผู้บริโภค ทักษะที่จำเป็น: การสื่อสาร การคิดเชิงกลยุทธ์ และความสามารถในการนำทีม เรตเงินเดือน: 35,000 - 80,000 บาทขึ้นไป 8.ผู้กำกับภาพยนตร์/โปรดิวเซอร์ (Director/Producer) ผู้กำกับภาพยนตร์และโปรดิวเซอร์เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ภาพยนตร์และโฆษณา พวกเขาต้องบริหารทีมงาน กำกับการถ่ายทำ และตัดสินใจเกี่ยวกับงานศิลป์และเนื้อหาเพื่อให้ผลงานออกมาสมบูรณ์แบบ ทักษะที่จำเป็น: Storytelling, การจัดการทีม, ความคิดสร้างสรรค์, และการบริหารงบประมาณ เรตเงินเดือน: รายได้ขึ้นอยู่กับโปรเจกต์ โดยอาจเริ่มต้นที่ 100,000 บาท และสูงถึง 300,000 บาท 9. นักเขียนบทภาพยนตร์ (Screenwriter) นักเขียนบทภาพยนตร์มีหน้าที่หลักในการสร้างสรรค์เรื่องราวและบทสนทนาสำหรับภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ โดยต้องพัฒนาโครงเรื่อง เขียนบทสนทนา สร้างตัวละคร และเขียนบทบรรยาย รวมถึงแก้ไขบทให้สมบูรณ์พร้อมสำหรับการถ่ายทำ ทักษะที่จำเป็น: ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการเขียนบทสนทนาและการเล่าเรื่อง ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น เรตเงินเดือน: ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความสำเร็จของผลงาน 10. อาจารย์หรือติวเตอร์ภาษา (Language Professor/Tutor) อาจารย์หรือติวเตอร์ภาษาต้องมีความรู้เชิงลึกและสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษาได้ดี ทักษะที่จำเป็น: ความรู้ด้านภาษานั้น ๆ อย่างเชี่ยวชาญ, ทักษะการสอน, ทักษะการสื่อสาร เรตเงินเดือน: 20,000 - 60,000 บาทขึ้นไป (หรือมากกว่านั้นสำหรับติวเตอร์อิสระ) อาชีพเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนของสายงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถในสายศิลป์ภาษาได้รับผลตอบแทนที่สูง หากมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทักษะของตนเองก็สามารถประสบความสำเร็จในสายอาชีพเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน เเละ​​หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    Career
    งานสายภาษา
    ครีเอทีฟ
    Mar 28, 2025
    1 min
    Thumbnail for รวม 10 อาชีพเงินเดือนสูงที่รับเด็กจบใหม่
    Jobs & Industries

    รวม 10 อาชีพเงินเดือนสูงที่รับเด็กจบใหม่

    ในยุคปัจจุบัน การเลือกอาชีพที่มีเงินเดือนสูงเป็นเป้าหมายของใครหลาย ๆ คน โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นอาชีพด้วยรายได้ที่มั่นคงและมีโอกาสเติบโตในสายงานที่ตนเองสนใจ อาชีพที่ให้เงินเดือนสูงมักเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี การเงิน และการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการสูง มาดูกันว่า 10 อาชีพที่ให้ค่าตอบแทนสูงและเหมาะสำหรับเด็กจบใหม่มีอะไรบ้าง 1. นักพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Developer) นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาแอปพลิเคชันหรือโปรแกรมต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาต้องมีทักษะในการเขียนโค้ดด้วยภาษาโปรแกรม เช่น Python, Java หรือ JavaScript รวมถึงสามารถวิเคราะห์และแก้ไขข้อผิดพลาดในซอฟต์แวร์ได้ อาชีพนี้มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน และสามารถเติบโตไปเป็น Software Engineer หรือ CTO (Chief Technology Officer) ได้ในอนาคต ทักษะที่จำเป็น: Programming (Python, Java, JavaScript) , Database Management (SQL, NoSQL) , Git และ Version Control เรตเงินเดือน: 30,000 - 80,000 บาท 2. นักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Specialist) นักการตลาดดิจิทัลมีหน้าที่ในการวางกลยุทธ์และดำเนินการตลาดออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook, Google Ads หรือ SEO พวกเขาต้องสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและใช้ข้อมูลเชิงสถิติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา การตลาดดิจิทัลเป็นสายงานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีโอกาสก้าวหน้าและมีรายได้ที่ดี ทักษะที่จำเป็น: SEO, SEM , Google Analytics และ Facebook Ads Manager , การสร้าง Content และ Copywriting , Data Analysis และ Marketing Strategy เรตเงินเดือน: 25,000 - 60,000 บาท 3. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst) นักวิเคราะห์ข้อมูลต้องมีความสามารถในการรวบรวม วิเคราะห์ และแปลผลข้อมูลเพื่อช่วยองค์กรในการตัดสินใจ พวกเขาต้องมีทักษะในการใช้เครื่องมือเช่น SQL, Python หรือ Power BI อาชีพนี้มีค่าตอบแทนสูง เนื่องจากความต้องการใช้งานข้อมูลในธุรกิจมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทักษะที่จำเป็น: SQL, Python, R ,Data Visualization (Tableau, Power BI) เรตเงินเดือน: 35,000 - 90,000 บาท 4. วิศวกรระบบคลาวด์ (Cloud Engineer) ออกแบบและดูแลระบบ Cloud Computing เช่น AWS, Google Cloud หรือ Azure พวกเขาต้องมีความรู้ด้านเครือข่าย ความปลอดภัยของระบบ และสามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการขยายตัวของธุรกิจได้ ทักษะที่จำเป็น: Cloud Computing (AWS, GCP, Azure) , DevOps & CI/CD Tools , Cybersecurity เรตเงินเดือน: 40,000 - 100,000  บาท 5. ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) นักวิเคราะห์และที่ปรึกษาทางธุรกิจช่วยองค์กรในการวางแผนกลยุทธ์ ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ทักษะที่จำเป็นได้แก่ การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ การสื่อสาร และการนำเสนอข้อมูล ทักษะที่จำเป็น: Business Analysis , Microsoft Office Suite, การเจรจาต่อรองและการสื่อสาร เรตเงินเดือน: 30,000 - 90,000  บาท 6. UX/UI Designer UX/UI Designer ทำหน้าที่ออกแบบอินเทอร์เฟซของเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้ใช้งานง่ายและมีประสบการณ์ที่ดีต่อผู้ใช้ พวกเขาต้องมีความเชี่ยวชาญในเครื่องมือออกแบบ เช่น Figma หรือ Adobe XD และมีความเข้าใจด้านจิตวิทยาผู้ใช้งาน ทักษะที่จำเป็น: UX/UI Design (Figma, Adobe XD) ,User Research & Usability Testing ,Wireframing และ Prototyping เรตเงินเดือน: 30,000 - 80,000  บาท 7. นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst) นักวิเคราะห์การเงินมีหน้าที่วิเคราะห์งบการเงินและคาดการณ์แนวโน้มทางธุรกิจ พวกเขาต้องมีทักษะด้านการเงินและการใช้โปรแกรม Microsoft Excel อย่างเชี่ยวชาญ ทักษะที่จำเป็น: การวิเคราะห์งบการเงิน , Financial Modeling & Valuation , ความรู้ด้านตลาดทุนและเศรษฐศาสตร์ เรตเงินเดือน: 35,000 - 85,000  บาท 8. เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ (Business Development Executive) Business Development Executive ทำหน้าที่หาลูกค้าใหม่ เจรจาต่อรอง และวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อขยายตลาด นักพัฒนาธุรกิจต้องมีทักษะการขายและการสื่อสารที่ดี ทักษะที่จำเป็น: Sales & Negotiation Skills , CRM Software (Salesforce, HubSpot) ,การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า (Client Relationship Management) เรตเงินเดือน: 25,000 - 70,000 บาท ยังไม่รวมค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามี) 9. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล (Data Scientist) นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลต้องใช้ Machine Learning และ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ทักษะที่จำเป็น: Python, Machine Learning, Deep Learning ,Big Data Processing เรตเงินเดือน: 50,000 - 120,000  บาท 10. วิศวกรหุ่นยนต์ (Robotics Engineer) วิศวกรหุ่นยนต์ทำหน้าที่ออกแบบและพัฒนาระบบหุ่นยนต์สำหรับงานอุตสาหกรรม ทักษะที่จำเป็น: Robotics Programming (Python, C++) ,ระบบควบคุมอัตโนมัติ (ROS, Embedded Systems), AI & Computer Vision เรตเงินเดือน: 40,000 - 100,000  บาท อาชีพที่มีเงินเดือนสูงมักต้องการทักษะเฉพาะทางและความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากเด็กจบใหม่สามารถพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องและเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ก็จะมีโอกาสก้าวหน้าในสายงานและได้รับค่าตอบแทนที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน เเละ​​หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    High-Paying Careers
    หางาน
    เลือกอาชีพ
    Mar 28, 2025
    2 min
    Thumbnail for รวม 10 อาชีพจ่ายหนัก ที่มีเงินเดือนแตะแสน!
    Jobs & Industries

    รวม 10 อาชีพจ่ายหนัก ที่มีเงินเดือนแตะแสน!

    การมีรายได้สูงถือเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้ว ยังสามารถสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตอีกด้วย อย่างไรก็ตาม งานที่ให้เงินเดือนหลักแสนขึ้นไปมักมาพร้อมความรับผิดชอบ ทักษะ และประสบการณ์ที่สูงตามไปด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปดู 10 อาชีพที่มีเงินเดือนสูงแตะแสน และรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละอาชีพว่าต้องทำอะไร ต้องมีทักษะอะไรบ้าง พร้อมทั้งช่วงเงินเดือนคร่าว ๆ ที่ได้รับ 1. แพทย์เฉพาะทาง แพทย์เฉพาะทางทำหน้าที่วินิจฉัย รักษา และให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เช่น ศัลยแพทย์ แพทย์โรคหัวใจ หรือแพทย์ผิวหนัง เป็นต้น ทักษะที่ต้องมี: ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ความละเอียดรอบคอบ การตัดสินใจที่รวดเร็ว ความสามารถในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เรตเงินเดือน: 100,000 - 500,000 บาท (ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์) 2. วิศวกรปิโตรเลียม วิศวกรปิโตรเลียมมีหน้าที่ในการวางแผน ควบคุม และดูแลกระบวนการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่ามหาศาล ทักษะที่ต้องมี: ความรู้ด้านธรณีวิทยา วิศวกรรมปิโตรเลียม การวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารจัดการโครงการ เรตเงินเดือน: 100,000 - 300,000 บาท 3. นักบินพาณิชย์ นักบินพาณิชย์ทำหน้าที่บังคับเครื่องบินโดยสาร ดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ รวมถึงการจัดการเที่ยวบินให้เป็นไปตามแผนการบิน ทักษะที่ต้องมี: ทักษะการบิน ความแม่นยำในการคำนวณ การรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน การสื่อสารที่ดี เรตเงินเดือน: 150,000 - 500,000 บาท 4. ผู้บริหารระดับสูง (CEO, CFO, CTO) ผู้บริหารระดับสูงทำหน้าที่กำหนดทิศทางองค์กร วางแผนกลยุทธ์ และตัดสินใจในเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จของบริษัท ทักษะที่ต้องมี: ภาวะความเป็นผู้นำ การบริหารองค์กร การวางกลยุทธ์ ทักษะการเจรจาต่อรอง เรตเงินเดือน: 200,000 - 1,000,000 บาท 5. Data Scientist นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะที่ต้องมี: การวิเคราะห์ข้อมูล การเขียนโปรแกรม Python/R ความรู้ด้าน Machine Learning เรตเงินเดือน: 100,000 - 300,000 บาท 6. ทนายความด้านธุรกิจและการเงิน ทนายความที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการเงิน มีหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาทางธุรกิจ การควบรวมกิจการ และการลงทุน ทักษะที่ต้องมี: ความรู้ด้านกฎหมายธุรกิจ ความสามารถในการเจรจาต่อรอง การวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา เรตเงินเดือน: 100,000 - 400,000 บาท 7. นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst) นักวิเคราะห์การเงินมีหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของบริษัท หรือให้คำแนะนำด้านการลงทุนและการบริหารสินทรัพย์ ทักษะที่ต้องมี: การวิเคราะห์ทางการเงิน ความเชี่ยวชาญด้าน Excel และซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูล การทำงบประมาณ เรตเงินเดือน: 100,000 - 300,000 บาท 8. นักเทรดหุ้น (Stock Trader) นักเทรดหุ้นทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น พันธบัตร และสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ เพื่อสร้างผลกำไรสูงสุด ทักษะที่ต้องมี: ความรู้ด้านตลาดทุน ทักษะการวิเคราะห์ทางเทคนิค ความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เรตเงินเดือน: 100,000 - 500,000 บาท (ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และผลประกอบการ) 9. ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine Learning ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine Learning มีหน้าที่พัฒนาและออกแบบระบบอัจฉริยะที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะที่ต้องมี: ความรู้ด้าน AI, Python, Deep Learning, Data Science เรตเงินเดือน: 120,000 - 400,000 บาท 10. วิศวกรซอฟต์แวร์ (Software Engineer) วิศวกรซอฟต์แวร์พัฒนา ออกแบบ และดูแลระบบซอฟต์แวร์ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทักษะที่ต้องมี: การเขียนโปรแกรม (Java, Python, C++) การพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ การแก้ไขข้อผิดพลาด (Debugging) เรตเงินเดือน: 100,000 - 300,000 บาท นี่เป็นเพียงตัวอย่างของ 10 อาชีพที่ให้เงินเดือนสูงระดับแสนบาทขึ้นไป ซึ่งแต่ละอาชีพล้วนต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์ที่เฉพาะทาง หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่อาชีพเหล่านี้ ก็สามารถเริ่มต้นจากการศึกษาหาความรู้และฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องตั้งแต่วันนี้ เเละ​​หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    อาชีพ
    เลือกอาชีพ
    เงินเดือน
    Mar 28, 2025
    1 min
    Thumbnail for อยากทำงานที่ได้เงินเดือนหลักแสน?  เช็กเลย! 10 อาชีพรายได้สูงสุดในกรุงเทพฯ ปี 2025
    Jobs & Industries

    อยากทำงานที่ได้เงินเดือนหลักแสน? เช็กเลย! 10 อาชีพรายได้สูงสุดในกรุงเทพฯ ปี 2025

    กรุงเทพฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เต็มไปด้วยโอกาสทางอาชีพ โดยอ้างอิงจากข้อมูลตลาดและรายงานอุตสาหกรรม นี่คือ 10 อาชีพที่มีรายได้สูงสุดในปี 2025 สำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ครอบคลุมทั้งระดับเริ่มต้นและระดับอาวุโส 1. ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) – ระดับอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿250,000 – ฿500,000/เดือน ทักษะสำคัญ: ภาวะผู้นำ, การวางกลยุทธ์, การพัฒนาธุรกิจ 2. นักวาณิชธนกิจ (Investment Banker) – ระดับเริ่มต้นและอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿80,000 – ฿400,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การวิเคราะห์ทางการเงิน, การบริหารความเสี่ยง, การจัดการลูกค้า 3. ผู้อำนวยการฝ่ายไอที / ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยี (IT Director / CTO) – ระดับอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿200,000 – ฿350,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การพัฒนาซอฟต์แวร์, ความปลอดภัยทางไซเบอร์, กลยุทธ์ไอที 4. แพทย์เฉพาะทาง (ศัลยแพทย์, วิสัญญีแพทย์) – ระดับอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿180,000 – ฿300,000/เดือน ทักษะสำคัญ: ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์, การดูแลผู้ป่วย, การผ่าตัด 5. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล / วิศวกร AI (Data Scientist / AI Engineer) – ระดับเริ่มต้นและอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿60,000 – ฿250,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การเรียนรู้ของเครื่อง, การวิเคราะห์ข้อมูล, การเขียนโปรแกรม Python/R 6. ที่ปรึกษากฎหมาย / ทนายความองค์กร (Legal Counsel / Corporate Lawyer) – ระดับอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿150,000 – ฿280,000/เดือน ทักษะสำคัญ: กฎหมายองค์กร, การเจรจาสัญญา, การปฏิบัติตามกฎระเบียบ 7. ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (Marketing Director) – ระดับเริ่มต้นและอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿60,000 – ฿250,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การตลาดดิจิทัล, การสร้างแบรนด์, การวิจัยตลาด 8. นักบิน(Airline Pilot) – ระดับอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿150,000 – ฿300,000/เดือน ทักษะสำคัญ: ความปลอดภัยการบิน, การปฏิบัติการบิน, การนำทาง 9. นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Developer) – ระดับเริ่มต้นและอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿70,000 – ฿250,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การลงทุนอสังหาริมทรัพย์, การวางแผนเมือง, การขาย 10. วิศวกรซอฟต์แวร์อาวุโส / นักพัฒนา Blockchain (Senior Software Engineer / Blockchain Developer) – ระดับเริ่มต้นและอาวุโส เงินเดือนเฉลี่ย: ฿80,000 – ฿220,000/เดือน ทักษะสำคัญ: การพัฒนาระบบแบบ Full-Stack, Smart Contracts, การเข้ารหัสข้อมูล อาชีพที่มีรายได้สูงในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่อยู่ในสาขาการบริหารระดับสูง, การเงิน, เทคโนโลยี และการแพทย์ โอกาสเปิดรับทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยมีตำแหน่งระดับเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ในสาขาเทคโนโลยี, การเงิน และการตลาด หากกำลังมองหาแนวทางอาชีพเพิ่มเติม สามารถติดตามคำแนะนำและเคล็ดลับการสมัครงานล่าสุดได้ที่ Career Portal

    High-Paying Jobs in Bangkok
    High-Paying Careers
    หางาน
    Mar 26, 2025
    1 min
    Thumbnail for Careerist EP17: Digital Strategist ผู้วางกลยุทธ์ในการตลาดต้องทำอะไรบ้าง เงินเดือนดีไหม มาดู!
    Jobs & Industries

    Careerist EP17: Digital Strategist ผู้วางกลยุทธ์ในการตลาดต้องทำอะไรบ้าง เงินเดือนดีไหม มาดู!

    การที่แบรนด์หนึ่งจะมีแคมเปญหรือกลยุทธ์การตลาดแต่ละครั้ง ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ทั้งแรงและเวลาเป็นอย่างมาก หนึ่งในตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในงานนี้ก็คือ Digital Strategist โดยตำแหน่งนี้มีหน้าที่หลักในการกำหนดทิศทางทางการตลาดดิจิทัลของแบรนด์ วันนี้ Jobcadu จะพามาทำความรู้จักกับอาชีพนี้ให้มากขึ้น Digital Strategist คืออะไร? Digital Strategist เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดในช่องทางดิจิทัล เช่น Social Media, SEO, SEM, Content Marketing, Email Marketing และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลกออนไลน์ เป้าหมายคือการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลเพื่อเพิ่มการมองเห็นของแบรนด์ ขยายฐานลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย Digital Strategist ต้องทำอะไรบ้าง? วิเคราะห์ตลาดและคู่แข่ง: ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มทางการตลาด และกลยุทธ์ของคู่แข่ง กำหนดเป้าหมายทางการตลาด: วางแผนกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ เช่น การเพิ่ม Brand Awareness หรือเพิ่มยอดขาย ออกแบบแคมเปญการตลาดดิจิทัล: กำหนดวิธีใช้ Social Media, Content Marketing, Email Marketing และ SEO ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประสานงานกับทีมอื่น ๆ: ทำงานร่วมกับทีมคอนเทนต์ กราฟิก และโฆษณาเพื่อให้แคมเปญมีความต่อเนื่อง วัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์: ใช้เครื่องมือ Analytics เช่น Google Analytics, Facebook Insights และ SEO tools เพื่อติดตามผลลัพธ์และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม Soft Skill และ Hard Skill ที่ Digital Strategist ต้องมี Soft Skills Critical Thinking: สามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาทางการตลาดได้อย่างมีเหตุผล Creativity: มีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบกลยุทธ์และแคมเปญ Communication: สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกับทีมได้ดี Adaptability: ปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีและแนวโน้มการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Hard Skills SEO & SEM: มีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำอันดับบน Search Engine Social Media Marketing: สามารถจัดการและวางกลยุทธ์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ Data Analytics: ใช้เครื่องมือต่าง ๆ ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและประสิทธิภาพของแคมเปญ Content Strategy: วางแผนและบริหารคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย Digital Strategist เงินเดือนดีไหม? เงินเดือนของ Digital Strategist ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และขนาดของบริษัท โดยเฉลี่ยแล้ว ระดับเริ่มต้น (Entry-Level): 25,000 - 40,000 บาทต่อเดือน ระดับกลาง (Mid-Level): 45,000 - 70,000 บาทต่อเดือน ระดับสูง (Senior-Level / Manager): 80,000 - 150,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ เงินเดือนอาจสูงขึ้นหากมีทักษะเฉพาะทาง เช่น ความเชี่ยวชาญใน Data Analytics หรือ Performance Marketing อยากเป็น Digital Strategist ต้องทำยังไง? เรียนรู้พื้นฐานด้าน Digital Marketing: ศึกษาเกี่ยวกับ SEO, Social Media, Content Marketing และ Data Analytics ฝึกฝนและสร้าง Portfolio: ลองทำแคมเปญการตลาดดิจิทัล และเก็บตัวอย่างงานเพื่อแสดงทักษะของตนเอง เรียนคอร์สออนไลน์: มีหลายแพลตฟอร์มที่มีคอร์สเรียนเกี่ยวกับ Digital Strategy เช่น HubSpot Academy , Coursera หรืออื่นๆ ทำงานในสายการตลาดดิจิทัล: เริ่มต้นจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้อง เช่น Social Media Executive หรือ Digital Marketing พัฒนาทักษะและเรียนรู้ตลอดเวลา: โลกของดิจิทัลเปลี่ยนแปลงเร็ว การเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งจำเป็น Digital Strategist เป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัล โดยต้องมีทั้งความคิดเชิงกลยุทธ์และทักษะทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง สำหรับใครที่สนใจงานในสายนี้ ต้องศึกษาและฝึกฝนทักษะต่าง ๆ และปรับตัวเข้ากับโลกดิจิทัลให้ดี เนื่องจากโลกดิจิทัลเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานประเภทนี้เลย หากคุณสนใจงานด้าน Digital Marketing หรืออยากเป็น Digital Strategist อย่าลืมฝากเรซูเม่ของคุณไว้กับเรา ที่ Job Portal

    social media
    Career planning
    Digital marketing
    Feb 17, 2025
    1 min
    Thumbnail for Careerist EP 16: อาชีพ ‘นักพยากรณ์อากาศ’ หมอดูสายภูมิศาสตร์ นักคาดเดา ที่ไม่เคยใช้การคาดเดาที่ปราศจากหลักฐาน
    Jobs & Industries

    Careerist EP 16: อาชีพ ‘นักพยากรณ์อากาศ’ หมอดูสายภูมิศาสตร์ นักคาดเดา ที่ไม่เคยใช้การคาดเดาที่ปราศจากหลักฐาน

    สภาพอากาศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กำหนดกิจวัตรประจำวันของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหรือวันไปทำงาน ซึ่งถ้าสภาพอากาศไม่เป็นใจก็อาจจะทำให้การเดินทางไปทำงานของเราไม่เป็นอย่างที่คิดได้ เราจึงต้องเช็กพยากรณ์อากาศก่อนเริ่มออกจากบ้านเสมอ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดคิด ไม่ว่าจะจากการโดยสารรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้าและวินมอเตอร์ไซต์ แต่เคยสงสัยไหมว่า ทำไมเราสามารถรู้อากาศล่วงหน้าได้ ใครเป็นคนทำหน้าที่นี้ แล้วเขาทำอย่างไร วันนี้จะมาทำความรู้จักกับอาชีพ ‘นักพยากรณ์อากาศ’ หรือ ‘อุตุนิยมวิทยา’กันว่า กว่าจะมีผลการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำเหมือนตาเห็นมาก่อน ต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง นักพยากรณ์อากาศ คือใคร นักพยากรณ์อากาศ คือผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลสภาพอากาศเพื่อนำมาใช้ในการพยากรณ์ลักษณะอากาศในอนาคต โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียม เรดาร์ และสถานีตรวจวัดอากาศ เพื่อช่วยให้ประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ และธุรกิจสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม เป็นนักพยากรณ์อากาศ หรือ อุตุนิยมวิทยา ต้องทำอะไรบ้าง? โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่ฝ่ายอุตุนิยมวิทยา ต้องทำงานร่วมกับหลาย ๆ ฝ่าย เช่น นักภูมิศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ เป็นต้น เพื่อการประเมินสภาพอากาศที่แม่นยำมากขึ้น จากความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรอบด้านครบมิติของภูมิศาสตร์ โดยหน้าที่หลักๆเฉพาะของฝ่ายอุตุนิยมวิทยาต้องทำมีดังนี้ รวบรวมข้อมูลอุตุนิยมวิทยา เช่น อุณหภูมิ ความชื้น ความกดอากาศ ที่ได้จากตรวจด้วยเครื่องมือตรวจอากาศชนิดต่าง ๆ เช่น ดาวเทียม เรดาห์ หรือ เครื่องตรวจอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น และเขียนออกมาเป็นแผนที่อากาศ ตรวจสอบ ศึกษา วิเคราะห์ และประมวลผลทางข้อมูลทางอุตุนิยมวิทยา เพื่อติดตามและพยากรณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทั้งในระยะสั้น ระยะปานกลาง และ ระยะยาว เพื่อประโยชน์ในการขนส่ง การเกษตร การอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ออกคำเตือนและพยากรณ์ลักษณะอากาศร้ายอันเนื่องมาจากธรรมชาติ เพื่อความปลอยภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ศึกษาค้นคว้า และวิจัยด้านอุตุนิยมวิทยา ภูมิฟิสิกส์ แผ่นดินไหว รังสีโอโซนและมลภาวะ ติดตามความก้าวหน้า พัฒนาเทคนิค และรูปแบบใหม่ ๆ ในการพยากรณ์อากาศ ให้คำปรึกษา แนะนำ เป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับความรู้ด้านอุตุนิยมวิทยา และข้อมูลสถิติอื่น ๆ เครื่องมือที่นักพยากรณ์อากาศใช้ในการวัดค่าเพื่อประเมินสภาพอากาศได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างเครื่องมือที่นักพยากรณ์ใช้วัดผลโดยหลักๆมีดังนี้ เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer): เครื่องมือใช้วัดอุณหภูมิสภาพอากาศโดยตรง มีหน่วยวัดที่ใช้กันทั่วไป คือ เซลเซียส(C) ฟาเรนไฮต์(F) และ เคลวิน(K ไฮโกรมิเตอร์ (Hygrometer): เครื่องมือที่ใช้วัดปริมาณของไอน้ำที่อยู่ในอากาศ สามารถวัดความชื้นสัมพัทธ์ในช่วง 0 ถึง 100% RH แต่เครื่องมือวัดส่วนใหญ่ช่วงการวัดจะขึ้นกับชนิดของเซ็นเซอร์ ความชื้นสัมพัทธ์จะแสดงเป็นอัตราส่วนของปริมาณของไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศหรือก๊าซปริมาณที่ถึงจุดอิ่มตัว 100% เครื่องวัดปริมาณน้ำฝน (Rain gauge): เครื่องมือวัดที่ถูกใช้โดยนักอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาเพื่อวัดปริมาณน้ำฝน มักจะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตรหรือนิ้ว เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนเป็นเครื่องมืออุตุนิยมวิทยสำหรับวัดความลึก ของน้ำฝนในพื้นที่หนึ่งตารางเมตร การวัดน้ำฝน1 มิลลิเมตร จะเทียบเท่าปริมาณน้ำฝน 1 ลิตรต่อตารางเมตร อุปกรณ์วัดทิศทางลม (Wind vane): เครื่องมือที่ใช้วัดและระบุความเร็วหรือความเร็วของลม เป็นเครื่องมือสำคัญในด้านอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา การตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม และอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ความเร็วลมมีบทบาทสำคัญ เครื่องวัดลมมักใช้ในสถานีตรวจอากาศ สนามบิน เรือเดินทะเล สถานวิจัย และการใช้พลังงานหมุนเวียน เครื่องวัดความเร็วลม (Anemometer): เครื่องมือที่ใช้ในการวัดความเร็วของลมหรือความเร็วของก๊าซเช่นการไหลของอากาศในท่อหรือในการไหลที่ไม่มีทิศทางเช่นลมในบรรยากาศ เครื่องมือวัดนี้ใช้ในการวัดความเร็วของลมและการไหลของลม CFM CMM และ CMS เรดาร์ตรวจอากาศ: เครื่องมือชนิดหนึ่งใช้สำหรับตรวจวัดฝน ฝนฟ้าคะนอง หิมะ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถตรวจ และแสดงตำแหน่งศูนย์กลางของพายุหมุนเขตร้อนได้อีกด้วย บอลลูนตรวจอากาศ: อุปกรณ์ทางอุตมวิทยา ใช้ในการตรวจอากาศชั้นบน มีลักษณะเป็นบอลลูนสีขาวหรือแดง บรรจุแก๊สไฮโดรเจนหรือฮีเลียม โดยมีกล่องเครื่องมือซึ่งเป็นเครื่องส่งวิทยุส่งติดตามไปขึ้นไปด้วย โดยจะส่งสัญญาณคลื่นวิทยุรายงานสารประกอบต่างๆ ลงมายังสถานีภาคพื้นดิ ดาวเทียมอุตุนิยมวิทยา (Meteorological satellites): อุปกรณ์ถ่ายภาพบรรยากาศโลกจากมุมสูงระยะทางไกล ทำให้มองเห็นภาพรวมของสภาพอากาศซึ่งปกคลุมเหนือพื้นผิว ตลอดจนทิศทางการเปลี่ยนแปลง ทำให้สามารถช่วยเตือนภัยและพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี ได้แก่ ดาวเทียม NOAA GMS และ GOES เป็นต้น จะเป็นนักพยากรณ์อากาศ ต้องเรียนอะไรบ้าง? สาขาวิชาที่นำไปสู่การเป็นนักพยากรณ์อากาศ จะต้องเรียนจบมัธยมสายวิทย์-คณิตศาสตร์ เพื่อมาต่อปริญญาตรี คณะวิทยาศาสตร์ โดยมีสาขาที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ สาขาวิชาอุตุนิยมวิทยา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ สาขาคณิตศาสตร์ สถิติ สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ ธรณีฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ภูมิศาสตร์ เงินเดือน ของอาชีพนักพยากรณ์อากาศ อัปเดตล่าสุด โดยทั่วไป เงินเดือนของนักพยากรณ์อากาศจะเริ่มต้นที่ 15,000 บาท เป็นต้นไป ตามความสามารถ และทักษะประสบการณ์ ความสำคัญของนักพยากรณ์อากาศก็ไม่น้อยเลย เพราะการที่เราสามารถรู้สภาพอากาศได้ล่วงหน้า ช่วยให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น และลดการเกิดอุบัติเหตุหรือความติดขัดทางจราจรได้ และหากสนใจบทความให้ความรู้ที่น่าสนใจ หรือบทความอื่น ๆ ก็สามารถติดตามได้ที่ Career Portal ได้เลย อ้างอิง 1.Mycareer-th 2.Hydro-1 3.Tools.in.th 4.Ponpe.com 5.Comcube.co.th 6.neonics.co.th 7.Tmd-dev 8.Thaipbs 9.Cartrack 10.Ednet 11.Personnel

    weather forecaster
    meteorologist
    อาชีพ
    Feb 7, 2025
    2 min
    Thumbnail for Careerist EP 14: อยากเป็นนักแปลภาษา ต้องทำยังไงบ้าง เรียนอะไร ได้เงินเดือนเท่าไหร่
    Jobs & Industries

    Careerist EP 14: อยากเป็นนักแปลภาษา ต้องทำยังไงบ้าง เรียนอะไร ได้เงินเดือนเท่าไหร่

    เคยสงสัยไหมว่าเวลาที่เราอ่านหนังสือภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็นนิยาย หนังสือวิชาการ หรือคู่มือการใช้งานต่าง ๆ หลายเล่มอาจจะมีต้นฉบับที่เขียนเป็นภาษาอื่น เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาญี่ปุ่น ภาษาจีน หรือภาษาอื่น ๆ แล้วใครกันที่ช่วยให้หนังสือหรือสื่อเหล่านี้เข้าถึงคนไทย? คำตอบก็คือ “นักแปลภาษา” นั่นเอง นักแปลภาษาเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับความรู้และเรื่องราวจากทั่วโลกได้ แม้ว่าเราจะพูดหรืออ่านภาษานั้น ๆ ไม่ได้เลยก็ตาม การแปลภาษาไม่ได้เป็นเพียงแค่การแปลงคำจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยทักษะ ความเข้าใจในวัฒนธรรม และความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาอย่างลื่นไหลอีกด้วย ซึ่งไม่ง่ายเลย ในวันนี้ Jobcadu จะพาทุกคนมารู้จักกับอาชีพนักแปลภาษา ว่าต้องทำอย่างไรบ้างถึงจะก้าวเข้าสู่วงการนี้ ต้องเรียนอะไร และที่สำคัญ อาชีพนี้สามารถสร้างรายได้ให้เราได้เท่าไหร่ เส้นทางอาชีพของนักแปลภาษา นักแปลคืออะไร นักแปลภาษาเป็นอาชีพที่ต้องอาศัยทักษะทางภาษาขั้นสูงในการทำงาน โดยบทบาทของนักแปลจะแตกต่างจากล่ามอย่างชัดเจนในแง่ของรูปแบบการทำงานและทักษะที่ใช้ นักแปลภาษา คือผู้ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดข้อความหรือเนื้อหาจากภาษาหนึ่งไปสู่อีกภาษาหนึ่งผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือ เอกสาร หรือแม้กระทั่งการแปลซับไตเติ้ลในภาพยนตร์และซีรีส์ ขณะที่ ล่าม เป็นผู้ที่แปลภาษาผ่านการพูด เพื่อช่วยให้การสื่อสารระหว่างบุคคลที่พูดคนละภาษา นักแปลภาษาต้องเรียนอะไรมา ต้องจบนอกไหม การเป็นนักแปลภาษานั้นไม่จำเป็นต้องเรียนจบจากต่างประเทศเสมอไป แต่การมีพื้นฐานความรู้ด้านภาษาศาสตร์หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น อักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วรรณกรรม การแปลหรือล่าม จะช่วยให้เข้าใจโครงสร้างและบริบทของภาษาได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การเรียนรู้ภาษาที่สาม เช่น ภาษาจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส หรือสเปน จะเพิ่มโอกาสในการทำงานในตลาดที่มีการแข่งขันสูง หรือหากสนใจเรียนต่อต่างประเทศที่เป็นเจ้าของภาษาที่เราสนใจ เพื่อเปิดประสบการณ์ รับวัฒนธรรมใหม่ๆ หรือเพิ่มฐานเงินเดือนในการทำงานในอนาคตก็สามารถเข้าไปดูคอร์สเรียนภาษาเพิ่มเติมได้ที่ Education Portal ทักษะที่จำเป็นในการเป็นนักแปลภาษา Hard Skills ความเชี่ยวชาญด้านภาษา (Language Proficiency): ต้องมีความรู้ลึกซึ้งในภาษาแหล่งที่มา (Source Language) และภาษาปลายทาง (Target Language) รวมถึงความสามารถในการแปลคำศัพท์เฉพาะทาง เช่น กฎหมาย แพทยศาสตร์ หรือเทคโนโลยี และด้านอื่น ๆ หากในเรื่องที่ยากมาก ๆ ก็มีโอกาสที่จะได้เงินเดือนสูงขึ้น การใช้ซอฟต์แวร์ช่วยแปล (CAT Tools): เช่น Trados Studio, MemoQ, Wordfast หรือ Google Translate Toolkit ความสามารถในการเขียน (Writing Skills): ทักษะการเขียนที่ดีจะช่วยให้เนื้อหาแปลดูเป็นธรรมชาติและน่าอ่าน Soft Skills ความละเอียดรอบคอบ (Attention to Detail): การตรวจสอบงานแปลให้ถูกต้องตามต้นฉบับ การบริหารเวลา (Time Management): เนื่องจากงานแปลมักมีการกำหนดเวลาอย่างเคร่งครัด การคิดเชิงวิเคราะห์ (Analytical Thinking): เพื่อแปลความหมายที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และยังคงความหมายเดิม มีความยืดหยุ่น (Flexibility): นักแปลต้องสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น คำศัพท์ที่หาความหมายไม่ได้ในพจนานุกรม หรือการจัดการกับคำแปลที่ไม่ตรงบริบท นักแปลภาษาได้เงินเดือนเท่าไหร่ อาจจะเทียบจากอาชีพต่าง ๆ เช่น นักแปลหนังสือ นักแปลล่าม นักแปลใด ๆ รายได้ของนักแปลภาษาขึ้นอยู่กับประเภทของงานและประสบการณ์ เช่น นักแปลหนังสือ: รายได้อาจเริ่มต้นที่ 300–500 บาทต่อหน้า หรืออาจได้รับค่าตอบแทนแบบเหมาเป็นเล่ม โดยเล่มหนึ่งอาจมีค่าจ้างตั้งแต่ 10,000–50,000 บาทขึ้นไป นักแปลเอกสารทางธุรกิจ: ค่าจ้างเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 500–1,000 บาทต่อหน้า นักแปลซับไตเติ้ล: ค่าจ้างมักอยู่ที่ประมาณ 30–50 บาทต่อนาทีของเนื้อหา ล่ามแปลภาษา (Interpreter): รายได้ของล่ามมีแนวโน้มสูงกว่านักแปลเอกสาร โดยเฉพาะล่ามในงานประชุมระดับนานาชาติ ซึ่งอาจได้รับค่าจ้างตั้งแต่ 5,000–20,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับภาษาและความเชี่ยวชาญ นักแปลภาษาไม่ได้มีแค่ภาษาอังกฤษนะ มีภาษาอื่น ๆ อีกมากมาย แม้ว่าภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ตลาดนักแปลยังต้องการผู้เชี่ยวชาญในภาษาอื่น ๆ เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน เป็นนักแปลภาษา จะหางานแปลภาษาได้ที่ไหนบ้าง อาชีพนักแปลภาษาเหมาะสำหรับคนที่รักในภาษาและวัฒนธรรม ชอบการถ่ายทอดเรื่องราว และมีความละเอียดอ่อนในงานเขียน แม้จะต้องใช้ความพยายามในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ แต่อาชีพนี้สามารถมอบทั้งความท้าทาย ความหลากหลาย และรายได้ที่น่าพอใจ สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นนักเเปลภาษา สามารถเข้าไปหางานได้ที่ Job Portal

    translator
    นักเเปลภาษา
    Language Proficiency
    Jan 23, 2025
    1 min
    Thumbnail for Careerist EP 13 ทำความรู้จักอาชีพล่าม: เส้นทางสู่การเชื่อมโยงโลกแห่งภาษา
    Jobs & Industries

    Careerist EP 13 ทำความรู้จักอาชีพล่าม: เส้นทางสู่การเชื่อมโยงโลกแห่งภาษา

    ในยุคที่โลกไร้พรมแดน การสื่อสารข้ามภาษาและวัฒนธรรมกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวัน อาชีพล่ามจึงเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีความสำคัญและเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่ามไม่เพียงแต่ทำหน้าที่แปลภาษาเท่านั้น แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมความเข้าใจระหว่างผู้คนจากต่างวัฒนธรรม Jobcadu จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับอาชีพล่ามอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงการก้าวสู่การเป็นล่ามมืออาชีพ ล่ามหรือนักแปลภาษา (Interpreter/Translator) คือผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารระหว่างบุคคลที่พูดคนละภาษา โดยการแปลความหมายแบบทันทีทันใด ซึ่งต่างจากนักแปลที่แปลงานเขียน ล่ามต้องใช้ทักษะการฟัง การประมวลผล และการพูดอย่างรวดเร็วเพื่อถ่ายทอดความหมายได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที อาชีพนี้เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะหลาย ๆ องค์กรต้องการคนที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษา ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 โดยอาชีพล่ามก็มีผลตอบแทนที่ดี หากเป็นล่ามภาษาที่ 3 จะยิ่งมีโอกาสได้เงินเดือนที่สูงมากขึ้น ประเภทของงานล่าม งานล่ามมีความหลากหลายและแต่ละประเภทก็ต้องการทักษะที่แตกต่างกันไป ล่ามแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก ๆ คือ ล่ามพูดตาม (Consecutive Interpreter) และล่ามแปลพร้อม (Simultaneous Interpreter) ล่ามพูดตามจะรอให้ผู้พูดพูดจบประโยคหนึ่งก่อนจึงแปล วิธีนี้เหมาะสำหรับการประชุมขนาดเล็ก การเจรจาธุรกิจ หรือการสัมภาษณ์ ล่ามประเภทนี้ต้องมีทักษะการจดบันทึกที่ดีและความจำที่แม่นยำ ส่วนล่ามแปลพร้อมจะแปลในขณะที่ผู้พูดกำลังพูด โดยมักนั่งในห้องกระจกและพูดผ่านไมโครโฟนให้ผู้ฟังได้ยินผ่านหูฟัง วิธีนี้นิยมใช้ในการประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ การประชุมสหประชาชาติ หรือการประชุมระดับสูง ล่ามประเภทนี้ต้องมีสมาธิสูงและความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ลักษณะงานของล่าม การแปลในที่ประชุม สัมมนา และการเจรจาธุรกิจ การแปลในศาล และหน่วยงานราชการ การแปลในงานแถลงข่าว งานแสดงสินค้า คอนเสิร์ตหรือแฟนมีตติ้ง การแปลสำหรับการท่องเที่ยว และนำเที่ยว การแปลในสถานพยาบาล สถานที่ทำงาน องค์การระหว่างประเทศ เช่น UN, ASEAN, WHO บริษัทเอกชนที่มีการติดต่อกับต่างประเทศ หน่วยงานราชการ กระทรวงการต่างประเทศ บริษัททัวร์ และการท่องเที่ยว สถานทูต และองค์กรระหว่างประเทศ ประกอบอาชีพอิสระ (Freelance) การศึกษา จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภาษา เช่น ภาษาศาสตร์ อักษรศาสตร์ หรือการแปลและการล่ามโดยตรง อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องจบสาขาเหล่านี้เสมอไป หลายคนที่จบสาขาอื่นแต่มีความสามารถทางภาษาสูงก็สามารถประกอบอาชีพล่ามได้เช่นกัน การศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านการแปลและการล่ามเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำงานและพัฒนาทักษะวิชาชีพ หลักสูตรเหล่านี้มักเน้นการฝึกปฏิบัติจริงและการพัฒนาทักษะเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับการเป็นล่าม ประกาศนียบัตรรับรอง เช่น จาก สมาคมล่ามการประชุมนานาชาติ (AIIC) หรือ ประกาศนียบัตรล่ามศาลสามารถเพิ่มโอกาสการจ้างงาน ทักษะที่จำเป็น ความเชี่ยวชาญด้านภาษา (Language Proficiency): ความคล่องแคล่วในอย่างน้อยสองภาษา รวมถึงความเชี่ยวชาญในสำนวนของแต่ละภาษาและความรู้ความเข้าใจในวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ซึ่งสามารถลงเรียนคอร์สเรียนภาษาต่าง ๆ ได้เลย การฟัง (Listening Skills): ความสามารถในการฟังอย่างเข้าใจและตีความหมายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ความจำ (Memory Retention): ความจำระยะสั้นที่ยอดเยี่ยมในการจดจำข้อมูลระหว่างการแปล ทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคล (Interpersonal Skills): การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อสร้างความไว้วางใจและความชัดเจน การจัดการความเครียด (Stress Management): ความสามารถในการรักษาความสงบและมีสมาธิในสภาพแวดล้อมที่มีความกดดันสูง โดยเฉพาะระหว่างการแปลพร้อมกัน เงินเดือน ระดับเริ่มต้น: 20,000–35,000 บาท (เช่น งานฟรีแลนซ์หรือตำแหน่งจูเนียร์) ระดับกลาง: 40,000–70,000 บาท (เช่น ล่ามที่มีประสบการณ์ในภาคธุรกิจหรือเฉพาะทาง) ระดับสูง: 80,000–150,000 บาท (เช่น ล่ามการประชุมหรือล่ามสำหรับลูกค้าระดับสูง) การเตรียมตัวและการพัฒนาทักษะ การเตรียมตัวเพื่อเป็นล่ามควรเริ่มจากการพัฒนาทักษะภาษาอย่างต่อเนื่อง ฝึกฟังสื่อต่าง ๆ ในภาษาที่สนใจ เช่น ข่าว รายการโทรทัศน์ ฟังพอดแคสต์ ดูภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งการอ่านหนังสือและบทความในหลากหลายหัวข้อจะช่วยเพิ่มพูนคลังคำศัพท์และความรู้รอบตัว การฝึกฝนทักษะการล่ามสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การฝึกแปลข่าว บทสนทนาจากภาพยนตร์ หรือเนื้อเพลงแบบทันที การจดบันทึกย่อ และการเข้าร่วมหลักสูตรอบรมล่ามระยะสั้น นอกจากนี้ การหาโอกาสฝึกงานหรืออาสาเป็นล่ามในงานต่าง ๆ จะช่วยสร้างประสบการณ์จริงและสร้างเครือข่ายในวงการวิชาชีพ ความท้าทายของอาชีพล่าม แม้อาชีพล่ามจะเป็นอาชีพที่น่าสนใจและมีความก้าวหน้า แต่ก็มีความท้าทายที่ผู้ที่สนใจควรพิจารณา ประการแรกคือความกดดันในการทำงาน เพราะล่ามต้องรักษาความถูกต้องและความรวดเร็วในการแปลไปพร้อม ๆ กัน การทำงานนอกเวลาและการเดินทางบ่อยครั้งเป็นอีกสิ่งที่ต้องเตรียมใจ โดยเฉพาะล่ามอิสระที่อาจต้องทำงานในเวลาและสถานที่ที่ไม่แน่นอน โดยสรุปแล้ว อาชีพล่ามเป็นอาชีพที่ท้าทายและให้ความภาคภูมิใจ เพราะนอกจากจะได้ใช้ความสามารถทางภาษาแล้ว ยังได้มีส่วนช่วยสร้างความเข้าใจระหว่างผู้คนจากต่างวัฒนธรรม การจะก้าวสู่การเป็นล่ามมืออาชีพต้องอาศัยความทุ่มเทในการพัฒนาตนเอง ความอดทน และความมุ่งมั่น แต่เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว ก็จะเป็นอาชีพที่ให้ทั้งความมั่นคงและความภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน หากใครที่กำลังมองหางานล่าม หรือนักแปล ก็สามารถหางานได้ที่ Job portal เพราะเรารวบรวมงานล่ามหรือนักแปลไว้ที่นี่แล้ว

    หางาน
    ล่าม
    Interpreter
    Jan 23, 2025
    1 min