เพราะขั้นแรกของการพัฒนา EQ คือการรับรู้การมีอยู่ของแต่ละอารมณ์...
วันนี้เราจะมาสำรวจคุณค่าเเละลักษณะนิสัยของตัวละครแต่ละตัวจาก Inside Out โดยทำความรู้จัก เข้าใจและยอมรับเเต่ละอารมณ์ทั้งหมด มองเห็นคุณค่าของมันและสังเกตว่าเราสามารถพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับการทำงานและความสำเร็จในเส้นทางอาชีพได้อย่างไร
1.ลั้ลลา (Joy)
ตัวแทนของความสุขและความมองโลกในแง่ดี เธอนำพาพลังงานอันล้นเหลือมาสู่สถานที่ทำงาน ท่ามกลางห้องจิตใจส่วนลึกของนางเอก ความกระตือรือร้นของเธอจุดประกายแรงจูงใจ สร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานในเชิงบวก เธอมองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นในตนเองว่าจะสามารถหาทางออกของปัญหาแต่ละอย่าง ซึ่งจะช่วยให้งานที่ทำมักออกได้ดีและทำให้บรรยากาศในทีมราบรื่นอีกด้วย โดยอ้างอิงจากทฤษฎี The Happiness Advantage
2.ว้าวุ่น (Anxiety)
ตัวละครที่ถูกมองว่าเป็นอารมณ์เชิงลบ ที่สร้างความน่ารำคาญ แต่จริงๆแล้ว ความวิตกกังวลในปริมาณที่เล็กน้อยแต่พอดี สามารถช่วยให้เราเตรียมพร้อมอย่างรอบคอบและคาดการณ์ล่วงหน้าถึงปัญหา ที่อาจจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อทีมของคุณกำลังทำโครงการหนึ่ง ความกังวล จะช่วยให้เรามองเห็นความเสี่ยง (Risk)และการหาทางรับมือล่วงหน้า (Mitigation) ผลร้ายแรง worst outcome ที่เรารับมือได้ อย่างไรก็ตามคุณต้องเรียนรู้ที่จะรับรู้การมีอยู่ของมัน จับมันไปนั่งบนเก้าอี้แห่งการผ่อนคลาย เพราะหากใช้งานมันมากเกินไปจะส่งผลให้ระบบความคิดและการกระทำที่ผิดพลาด ทั้งยังส่งผลต่ออาการอย่าง Panic
3.เศร้าซึม (Sadness)
ความเศร้า(ในเชิงบวก) จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นและช่วยให้เข้าใจอารมณ์จากมุมมองของผู้อื่น เช่น เมื่อเพื่อนร่วมงานของคุณ กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความเศร้าจะช่วยให้คุณแสดง ความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจ และเสนอความช่วยเหลือ ทั้งนี้เนื่องจากเรามีความเข้าใจและความลึกในอารมณ์ของเรา
4.ฉุนเฉียว (Anger)
ในบางสถานการณ์ คุณจำเป็นต้องยืนหยัดเพื่อตัวเองและปกป้องสิทธิ์ ของคุณ "ความโกรธ" จะช่วยให้คุณแสดงออกอย่างมีพลัง กล้าพูดในสิ่งที่คุณต้องการ ขอบเขตที่คุณรับได้ สิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม คุณต้องใช้ความโกรธอย่างเหมาะสม มุ่งเน้นไปที่การพิจารณาและแสดงการมีอยู่ของปัญหา ไม่ใช่การตำหนิหรือโทษผู้อื่น
5.อิจฉา (Envy)
ความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่สรรหาสิ่งที่ทำให้ เรารู้สึกสบาย เอาตัวรอดโดยเทียบกับผู้อื่น หากใช้ในทางบวกสามารถกระตุ้นความมุ่งมั่นในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาและเรียนรู้จากผู้อื่น (เเต่ก็เป็นดาบสองคม ควรฝึกยอมรับและยินดีกับผู้อื่น ใช้เเรงผลักดันในทางที่ถูกต้องเเละไม่ทำร้ายใคร)
6.อ๊ายอาย (Embarrassment)
การก้าวข้ามความอาย จะช่วยการให้สื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง มีประสิทธิภาพ มั่นใจเเละกล้าที่จะเเสดงความคิดเห็น การให้พื้นที่ปลอดภัย (Safety net) ให้เพื่อนร่วมทีมคุณได้แสดงความสามารถ จะช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความเขินอายได้เช่นเดียวกัน
7.กลั๊วกลัว (Fear)
ความกลัวเป็นกลไกเอาชีวิตรอด แต่ในที่ทำงานเมื่อคุณก้าวออกจากคอมฟอทโซน คุณจะได้เผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ ซึ่งอาจมาพร้อมกับความกลัว เพราะแค่คุณ "ไม่เคยทำมัน" การโอบกอดความกลัวทำให้คุณตระหนัก เรียนรู้ ฝึกฝนความสามารถ และพัฒนาตัวเองให้เก่งขึ้น คุณสามารถเลือกที่จะหนีหรือบอกกับตัวเอง ปรึกษาหรือถามจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือเชี่ยวชาญกว่า ยอมรับความจริงแล้วเผชิญหน้ามัน
8.หยะแหยง (Disgust)
ความขยะเเขยงจะช่วยกระตุ้นให้คุณยึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้องปฏิบัติตาม หลักจริยธรรม และหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เมื่อเพื่อนร่วมงานของคุณพยายามให้คุณเอาเปรียบลูกค้า ความขยะเเขยงจะช่วย ให้คุณปฏิเสธ ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาชื่อเสียงขององค์กร
ในโลกการทำงานที่วุ่นวาย อารมณ์มักจะเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามเเละไม่ได้ถูกนับว่าเป็นส่วนสำคัญของการบรรลุผลลัพธ์ของงาน แต่ความจริงคือเรายังต้องทำงานกับผู้คน และขึ้นชื่อว่าเป็นมนุษย์ พวกเรามีขอบเขตการมีเหตุผลอย่างจำกัด และหลายครั้งการตัดสินใจ การกระทำถูกขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์จึงเข้ามามีส่วนในมาตรวัดทักษะในด้านนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนอย่างที่ภาพยนตร์ของ Pixar เรื่อง "Inside Out 2" ที่สื่อออกมาให้เห็นได้อย่างยอดเยี่ยมผ่านการเป็นนักกีฬาของไรลี่ย์ ตัวละครเอกเด็กหญิงวัยรุ่นกลาง ๆ อารมณ์ของเราล้วนมีบทบาทสำคัญในการกำหนดความคิด พฤติกรรม และในที่สุดคือผลลัพธ์ทางวิชาชีพของเรา
รู้จักตัวเอง รู้จักอารมณ์ มาปลดล็อคตัวตนของตัวเองผ่านภาพยนตร์ดีๆอย่าง Inside Out 2 เพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตส่วนตัวเเละการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ